ประสบการณ์สยอง

เมื่อผนังบ้านมีเลือดออก

เรื่องราวผนังบ้านที่มีรอยเปื้อนเลือดที่ไม่รู้แหล่งที่ มาและไม่ยอมหยุด เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในฝรั่งเศษ ด้วยเรื่องราวที่แปลกประหลาด จนถูกนำมาทำเป็นหนังสารคดีสั้นจนโด่งดัง

เรื่องนี้ได้ปรากฏตามเวปต่างๆ และโดยการแปลของกูเกิ้ล ผสมการเล่าเรื่องแบบเป็ดๆ จะหนุกหรือไม่ไปดู.

Name:  quand-les-murs-saignent-i2020.jpg
Views: 5692
Size:  5.3 KB

ในเดือนกันยายนปี 1986 Lucieและ Jean – Marc สองสามีภรรยา ได้ย้ายเข้าบ้านใหม่ ทั้งคู่มีความสุขอย่างยิ่งที่ได้ครอบครองบ้านหลังนี้

คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	ky-luc-34.jpg
Views:	191
Size:	203.2 KB
ID:	1661078

เช้า วันหนึ่งเมื่อ Lucie ตื่นขึ้นมาขณะอยู่ในห้องครัว ได้พบคราบเลือดเป็นจุดหย่อมๆอย่างประหลาด เขางุนงงกับสิ่งที่พบ และไม่แน่ใจว่าเป็นเลือดของสามีหรือไม่ Lucie ตกใจรีบวิ่งไปดูที่ผ้าของสามี พบว่ามีคราบเลือดติดที่ผ้าเช่นกัน เธอได้เล่าให้สามีฟัง ทั้งสองต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมความงุนงง

และยิ่งสร้างความหวาดผวาให้กับ ลูซี่ยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อตกกลางคืนทั้งคู่ต้องสะดุ้งตื่นกับเสียงแปลกๆที่ได้ยินจากห้องชั้นล่าง


คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	ky-luc-33.jpg
Views:	320
Size:	213.7 KB
ID:	1661079

วัน ต่อมาทั้งคู่ตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าตำรวจที่ให้มาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และสร้างความตะลึงงันเป็นอย่างยิ่ง ที่ในขณะที่ตำรวจสอบปากคำ ก็ได้มีเสียงเกิดขึ้นที่ชั้นสองของบ้าน งานนี้ทำเอาเจ้าหน้าที่ผวากับสิ่งที่เกิดขึ้นชนิดวิทยาศาตร์ไม่สามารถให้คำ ตอบได้


เรื่อง ราวที่ปรากฏทำไห้ลูซี่มีทั้งความกลัวและหวาดระแวงเครียดอยู่ในตัว ทำไห้เธอรู้สึกหงุดหงิดเมื่อมีชาวบ้านมาขอเยี่ยมดูความประหลาดนี้

เรื่อง ดังกล่าวแพร่กระจายออกไป สื่อทีวีได้มาขอทำข่าว และทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาทำการพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ พวกเข้าได้ใช้ วัสดุตรวจหาร่องรอยคราบเลือดนี้ โดยการนำวัตถุประเภทปูนขาวโรยทับพื้นผนังที่คาดว่าจะมีร่องรอยการเข้ามาของ ใครเพื่อมาทำหลอกหรือไม่ และได้ทำการล๊อคห้องบ้านอย่างแน่นหนา

รุ่งขึ้นพวกเขาได้มาทำการตรวจสอบอีกครั้ง ผลปรากฏว่ายังพบคราบเลือดที่ผนังอีกเช่นเดิม

 

วิญญาณพี่สาว

เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องผีที่น่าขนหัวลุกแล้ว ผมว่ายังจะเป็นอุททาหรณ์สำหรับคุณผู้อ่านได้ด้วย

นั่น ก็คือ ผมอยากจะบอกคุณๆ ว่า การเกิดเป็นต้นเหตุของความตาย และอันความตายนั้นไม่ใช่ว่าจะรอคอยเราอยู่ตรงบั้นปลายชีวิต เมื่อเราแก่เฒ่าร่วงโรยตามอายุขัยเสมอไปหรอกครับ

จริงๆ แล้วความตายอยู่กับเราๆ ท่านๆ ในทุกลมหายใจ หากเผลอไผลหรือประมาทพลาดพลั้งเมื่อไหร่ แม้เพียงเสี้ยววินาทีเราก็เสร็จมันแน่ๆ เราจะได้พบความตายที่มาจากอุบัติเหตุต่างๆ นานา ทางรถยนต์ ทางน้ำ ทางไฟฟ้า การพลัดตกจากที่สูง และสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดแต่ดันเกิดขึ้นอีกร้อยแปดพันเก้า

ผมเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ครับ จวนจบ ม.6 ในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี่แหละ

ผม ไม่ใช่ลูกโทนโดยกำเนิด จริงๆ แล้วผมมีพี่สาวที่น่ารักมากอยู่คนหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่สุดที่เธอตายไปเมื่ออายุเพียง 6 ขวบ ด้วยสาเหตุถั่วลิสงติดคอ! เฮ้อ...เรากำลังเล่นกันดีๆ แท้ๆ พริบตาเดียวความตายก็ได้เธอไปครอง!

คุณต้องระวังให้มากๆ นะครับ มันอาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง ลูกเล็กๆ หรือคนที่คุณรักก็ได้

ตอน นั้นน่ะผมอายุแค่ 4 ขวบกำลังเรียนอนุบาล ส่วน "พี่แต" ของผมอยู่ชั้น ป.1 เธอเรียนเก่งมาก ชอบเลขคณิต ภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์เป็นที่สุด นี่ถ้าหากยังอยู่ ป่านนี้ต้องได้เรียนเป็นหมอแน่ๆ ตรงข้ามกับผมเลยครับ ผมชอบเล่นมากกว่าชอบเรียน ทุกๆ เช้ากว่าจะไปโรงเรียนได้ แม่กับยายแทบประสาทกินเพราะผมโยเย ขณะที่พี่แตแต่งตัว ผูกหางเปีย ไปนั่งรออยู่ในรถแล้ว

วันที่เกิดเหตุเป็นวันเสาร์ พี่เลี้ยงซื้อถั่วลิสงต้มมาแกะกิน เราสองคนพี่น้องเห็นเข้าก็อยากกินมั่ง พี่เลี้ยงก็แกะให้...แหม! มันอร่อยหวานมัน หอมกรุ่นกินเพลินจริงๆ ครับ ถั่วลิสงต้มนี่น่ะ

พี่เลี้ยงของเรามีวิธีกินพิสดาร คือแกจะโยนเม็ดถั่วสูงขึ้นไปในอากาศแล้วอ้าปากรับ เราก็เอามั่งซิ สนุกดีนี่!

ได้ เรื่องเลยครับ พี่แตแหงนคอรับถั่วไปหัวเราะไป เสียงหัวเราะของเธอสดใสเหลือเกิน ผมจำได้ไม่ลืม...เสียงหวานใสเหมือนระฆังแก้ว แต่แล้วก็หยุดชะงักทันใด

ผม หันไปดู เธอเอามือกุมคอหอย สีหน้างงงันและตกใจ แววตาตื่นกลัวสุดขีด ไม่มีเสียงใดๆ ออกจากปากที่อ้าค้าง เธอหายใจไม่เข้า มือตะครุบแขนพี่เลี้ยงขอความช่วยเหลือ ฝ่ายนั้นก็ตกใจถามอย่างเดียวว่าคุณแตเป็นอะไรๆ แล้วร้องกรี๊ดกร๊าดวิ่งพล่าน

ตอน นั้นไม่มีใครอยู่บ้านเลยครับ พ่อแม่ไปธุระ คุณยายไปหาเพื่อน ผมเองก็ยังเด็กเหลือเกิน ได้แต่ร้องไห้จ้า ขณะที่พี่แตล้มคว่ำหน้าลงกับพื้นซีเมนต์ เธอเขียวไปทั้งตัว จากผิวขาวอมชมพูกลายเป็นสีคล้ำดำมืด...

แล้วเธอก็จากพวกเราไปตลอดกาล!

ทว่า พี่แตจากไปแต่เพียงร่างเท่านั้น บ้านเราไม่เหมือนเดิมอีกเลย ทุกคนเศร้ามาก พ่อแม่กับคุณยายผลัดกันเป็นลมแล้วเป็นลมอีก ความเศร้าครอบงำพวกเราอยู่เป็นปี

วันหนึ่ง หลังจากพี่แตตายไปราวสามเดือน ผมเห็นเธอครับ เช้าวันนั้นผมโยเยตามเคย ก็มันไม่อยากไปโรงเรียนนี่นา แล้วผมก็เห็นพี่แตนั่งรออยู่ในรถ!

เธอดูเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมโวยลั่น แม่วิ่งไปดู แม่ไม่เห็นแต่ร้องไห้เสียงดัง

ตั้งแต่ นั้นมาผมเห็นพี่แตบ่อยมาก เห็นในบ้านเรานี่แหละครับ บางทีเธอก็นั่งดูทีวีอยู่ใกล้ๆ แม่ ผมชี้มือบอกว่าพี่แตมา! แม่ไม่กลัวแต่คนอื่นกลัวมาก อย่างพี่เลี้ยงที่ซื้อถั่วต้มมาให้กินถึงกับลาออกไปเลย เพราะคืนหนึ่งแกลืมตาขึ้นมาเห็นพี่แตยืนจ้องอยู่ข้างเตียง

คุณยาย บอกว่าพี่แตยังไม่ถึงอายุขัย เธอตายกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ วิญญาณยังห่วงและผูกพันกับชีวิตชาตินี้...ชีวิตที่ภายภาคหน้าทำประโยชน์ได้ อีกมากมาย

ทุกวันนี้เราขายบ้านหลังนั้นไปแล้ว และมาซื้อคอนโดฯ อยู่กัน คุณยายก็ตายไปสวรรค์อยู่กับพี่แตแล้ว ผมยังคิดถึงสองคนอยู่เสมอ ผมเห็นพี่แตครั้งสุดท้ายเมื่ออายุราว 10 ขวบ ยอมรับว่ากลัวเหมือนกัน...

ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เห็นอีก นอกจากในฝันที่เธอเป็นสาวสวยน่ารักมากครับ!


สยองจากคำทำนายฝัน 
มนุษย์ เราเชื่อเรื่องความฝันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วค่ะ แถมเชื่อถือกันทั่วโลกอีกต่างหาก ไม่งั้นคงจะไม่ปรากฏในประวัติศาสตร์และพงศาวดารต่างๆ เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญก็ยึดเอาความฝันเป็นหลักเกณฑ์ทั้งนั้น

แถวบ้าน ดิฉันที่สุทธิสาร ใกล้ๆ สี่แยกวิภาวดีฯ มีหญิงชราวัย 70 ผู้หนึ่งเรียกกันว่า "ยายผิว" บ้าง "ป้าผิว" บ้าง เป็นคนทำนายความฝันเรื่องต่างๆ ได้แม่นยำใครๆ ก็มาหา มาขอให้ช่วย "แก้ฝัน" แทบทุกวัน

ป้าผิวผมขาวโพลนตัดสั้น ผิวขาว ร่างท้วม หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ กิริยาวาจาสุภาพเรียบร้อย นิ่มนวลอ่อนโยน ไม่เคยเอะอะปึงปังขึ้นมึงกูกับใครแม้แต่คนเดียว

ลือกันว่าป้าผิว เป็นคนมีชาติมีตระกูล หรือเรียกว่า "ผู้ดีเก่า" ตามคำกลอนที่ว่า "อันสัญชาติผู้ดีย่อมมีรอย ไม่เอ่ยถ้อยเขาก็รู้ว่าผู้ดี"

ป้าผิว เป็นคนเก่าแก่ของย่านนั้น สามีเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ลูกเต้ามีครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่บ้างก็อยู่ด้วยพร้อมกับลูกๆ ที่ย่างเข้าวัยหนุ่มสาว

นับว่าป้าผิวเป็นหญิงชราที่มีความสุข แถมน่าเคารพนับถืออีกด้วย

การ แก้ฝันให้ใครๆ ก็ไม่เคยเรียกร้องเงินทอง แม้ใครถูกหวยเอาเงินมาให้ก็ไม่รับ บอกว่าถ้าจะให้จริงๆ ก็เอาไปทำบุญเถิด...ทุกวันนี้ก็มีอยู่มีกิน ไม่เดือดร้อนอะไร

กระทั่งวันหนึ่งก็เกิดเรื่องขนหัวลุกขึ้นค่ะ!

ดิฉัน อายุ 30 เศษแล้วแต่ยังไม่มีบุตร เมื่อ 3-4 ปีมาแล้ว คืนหนึ่งฝันว่าได้สร้อยทองเส้นใหญ่อย่างที่ไม่เคยฝันมาก่อน รุ่งขึ้นสามีออกจากบ้านแล้วก็รีบไปหาป้าผิวทันที เห็นหญิงชรานั่งอยู่ที่ม้ายาวใต้ต้นสาเกร่มครึ้มหน้าบ้าน กำลังคุยกับน้องแอร์ หญิงสาวในซอยผู้มีลูกชายวัยขวบเศษนั่งตักอยู่ด้วย...มาให้ป้าผิวทำนายฝัน เช่นกัน

ฟังแล้วใจวูบชอบกล เพราะแอร์ฝันคล้ายๆ ดิฉัน...ฝันว่าได้เหรียญทองกองใหญ่แต่ทำหลุดมือไป! หน้าตาท่าทางตื่นเต้น ถามซ้ำว่า...ตกลงหนูจะได้ลาภแน่ๆ หรือคะ

ป้าผิวยิ้มกับดิฉันที่สงบใจ ฟังคำทำนายให้คนมาก่อน บอกว่า...ตำราของพวกฝรั่งนั้นถ้าฝันถึงทรัพย์สินเงินทอง จะถือว่าฝันร้าย? แต่ตำราของไทยจะทำนายฝันนี้ออกเป็นสองประการด้วยกัน

อย่างหนึ่งคือ ถ้าผู้ฝันมีครอบครัวแล้วจะได้บุตร

อย่างที่สองคือ ถ้าผู้ฝันชอบเล่นการพนันจะเสียเงินทอง

น้องแอร์ค้านว่า หนูฝันว่าได้ทอง แต่ทำหายนี่คะ...เหรียญทองกองใหญ่แท้ๆ แต่กลับหลุดมือไปหมดเลย!

ป้า ผิวยิ้มละไมตามเคย ยกถ้วยน้ำมะตูมขึ้นจิบ ก่อนจะขยายความว่า...ถ้าฝันเห็นเงินทอง จะเสียเงินหรือเสียพนัน แต่ถ้าฝันว่าเสียเงินเสียทองจะได้ลาภ! แม่แอร์บอกว่าฝันตอนย้ำรุ่งใช่ไหม? วันนี้วันพฤหัสบดีเป็นวันครูเสียด้วย! อย่าให้ป้าบอกอะไรมากกว่านี้เลยนะ...ระวังเหรียญให้ดี! อ้อ...ลองคิดดูว่ามีกี่อัน?

"9 อันค่ะ หนูจำได้!" น้องแอร์ร้อง กอดลูกแน่น "หนูจะแทงหวยให้จั๋งหนับไปเลย! โอ้โฮ...เห็นแต่เหรียญทองทั้งนั้นเลยค่ะ จู่ๆ ก็หายไปหมด หนูคงถูกหวยแน่ๆ"

น้องแอร์อุ้มลูกกลับไปแล้ว ป้าผิวส่ายหน้าพลางบ่นยิ้มๆ ว่า...แม่คนนี้เห็นอะไรก็ตีเป็นเลขหวยไปหมด! เฮ้อ..."

สำหรับดิฉันคงไม่ต้องบอกนะคะว่าป้าผิวจะทำนายฝันว่ากระไร!

อาทิตย์ ต่อมาก็มีข่าวว่าน้องแอร์ถูกหวยถึงสามหมื่นบาท เพราะแทง 09-90 ทั้งบนและล่าง น้องแอร์อวดกับใครๆ หลายบ้าน บอกว่าป้าผิวทำนายฝันแม่นเหมือนตาเห็น...บอกให้ระวังเหรียญก็จำได้ว่ามี 9 อัน จนกระทั่งถูกหวยอย่างจังๆ

เมื่อรับเงินก้อนมาฉลองกันในหมู่ เพื่อนๆ น้องแอร์บ่นพร่ำว่า...น่าจะแทง 09 ตรงๆ บน-ล่าง ตัวละพันบาทมากกว่า เพราะไม่ใช่เหรียญ 90 อันนี่นา จะได้ถึงหกหมื่น

ขณะที่น้องแอร์ฉลอง กับเพื่อนที่หน้าบ้าน ลูกชายวัยขวบเศษของเธอก็คว้าเหรียญบาทใส่ปาก...เหรียญติดคอตายก่อนถึงโรง พยาบาล...นึกถึงคำพูดของป้าผิวให้น้องแอร์ระวังเหรียญ ยังติดหูดิฉันมาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ

เขาว่าความเครียดไม่เหมาะกับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะคนมีครรภ์นะคะ!

ข้อมูลจาก ข่าวสด