13.10.54

พันช์ แฮปปี้อินเลิฟหนุ่ม ชุมพร

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'พันช์'แฮปปี้อินเลิฟหนุ่ม'ชุมพร'
"พัน ช์" วรกาญจน์ โรจนวัชร เผยคบหนุ่มตี๋ชุมพร 3 ปี แฮปปี้ แต่ยังไม่คิดวางแผนอนาคตร่วมกัน ส่วนแม่ไฟเขียว แย้มละคร "ท่านชายในสายหมอก" ร่วมงาน หลุยส์ สก็อต ครั้งแรก ชมพระเอกหนุ่มดูอัธยาศัยดี

          นักร้องสาวเสียงดี "พันช์" วรกาญจน์ เปิดเผยว่า หนุ่มตี๋ที่ซุ่มดูใจกว่า 3 ปี นั้นแม่ไฟเขียว ล่าสุดเจอตัวสาวพันช์ ในงานบวงสรวงละคร "ท่านชายในสายหมอก และ สะใภ่ซ่าส์แม่ย่าเฮี้ยน" ณ บริษัท ทีวีธันเดอร์ พันช์ เผยรายละเอียดดังนี้
   
              "ความรักก็ดี คบมา 3 ปีกว่าแล้ว บ้านเขาทำธุรกิจขายอุปกรณ์ก่อสร้างอยู่ชุมพร เป็นคนจีน (คลิกตรงไหน) เขาเป็คนดูสุภาพดี ปกติพันช์จะห้าวๆ ตรงๆ ไม่ชอบจะบอกว่าไม่ชอบ บุคลิกไม่ค่อยเหมือนกันเลย เข้ากันได้ (ใครจีบใครก่อน) เขาชอบพันช์ก่อนแหละ แต่เราดูแล้วรู้สึกว่าน่าจะเข้ากันได้ ตอนแรกที่รู้จักกัน เขาเข้าทางแม่พันช์เลย (หัวเราะ) ถามว่าแม่ว่าอย่างไร แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแม่จะแล้วแต่พันช์ทุกอย่าง เพราะเราดูแลตัวเองได้ ถ้าใครเข้ามายังไง เราจะมองออกและรู้สึกได้เอง พันช์จะเป็นคนสกรีนเองเลย ถ้าไม่ชอบคือไม่ชอบ ถามว่าวางแผนอนาคตไว้มั้ย ยังหรอก พันช์รู้สึกว่าตัวเองยังเด็กอยู่ เพราะตอนนี้เราโอเคแฮปปี้ดี รอเวลาปล่อยไปเรื่อยๆ รอให้เขามีหลักฐานที่มั่นคงกว่านี้ก่อน" พันช์กล่าว
   
              ถามต่อถึงผลงานละครเรื่องที่ 2 "ท่านชายในสายหมอก" ซึ่งร่วมงานกับหลุยส์ เป็นเรื่องแรก พันช์เผยว่าน่าจะร่วมงานกันง่าย เพราะหลุยส์ดูเป็นคนอัธยาศัยดี
   
              "ครั้งนี้เพิ่งได้ร่วมงานกับพี่หลุยส์ครั้งแรก แต่คิดว่าน่าจะทำงานร่วมกันง่าย เพราะเขาเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มแย้ม มีคุยทักทายกันบ้าง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นละครคอมเมดี้ตลกๆ ดราม่าน้อยกว่าเรื่องทัดดาวบุษยามาก จะออกคอมเมดี้ส่วนใหญ่ ต้องมีปลอมตัวเป็นผู้ชายด้วย เพราะต้องเข้าไปเป็นคนรับใช้ของเจ้าชาย(ปลอมตัวเป็นผู้ชายคล้ายเรื่องที่ แล้ว) อาจจะคล้ายๆ กัน พันช์ไปค้นในอินเทอร์เน็ตดู เลยรู้ว่าเรื่องนี้เป็นละครรีเมกด้วย (เล่นละครคล้ายๆ กันเบื่อมั้ย) ตอนนี้ยังไม่เบื่อ แต่ถ้ามีเรื่องหน้า อาจจะคิดนิดหนึ่ง กลัวคนจะติดภาพ แต่ถ้าเรื่องหน้าติดต่อมาแบบนี้ พันช์คิดว่าผู้ใหญ่คงให้พอก่อน เพราะกลัวคนดูจะเลี่ยน เรื่องนี้จะเริ่มถ่ายปลายเดือนตุลาคม และออนแอร์ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า ถามว่ากลัวมั้ยว่ากระแสตอบรับจะไม่แรงเท่าเรื่องแรก อาจจะมีบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่กังวล พันช์มีเตรียมใจไว้อยู่แล้ว" พันช์กล่าวปิดท้าย

ที่มา คมชัดลึก

มาร์กี้ โดนน้ำตัวซีดถ่ายฉากซึ้งกับ บอย

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'มาร์กี้'โดนน้ำตัวซีดถ่ายฉากซึ้งกับ'บอย'
'มาร์กี้'โดนน้ำตัวซีดถ่ายฉากซึ้งกับ'บอย':ตะลุยตะลอนกอง

            แสนซนจนได้เรื่องจนได้สำหรับนางเอกจอมแก่น "มาร์กี้" ราศรี บาเลนซิเอก้า ที่ดื้อออกไปพายเรือเล่นน้ำที่ไหลแรงจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ในละคร "รอยมาร" ของค่ายทีวีซีน ดื้อแบบนี้พระเอกอย่าง "บอย" ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เขาจะมีใจอยากช่วยมั้ยเนี่ย
     
              ฉากนี้ เป็นตอนที่สไบนาง (มาร์กี้) หนีอุปมา (บอย) เพราะไม่อยากเจอหน้า คว้าเรือพายออกไปคนเดียว อุปมาเห็นน้ำเริ่มเชี่ยวและไหลแรง เลยพายเรือตามไปเจอกับสไบนางที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือเพราะโดนกระแสน้ำ พัดเรือล่มติดอยู่กับโขดหินก่อนจะถึงน้ำตก อุปมารีบเข้ามาช่วยจนทั้งสองคนติดอยู่กลางน้ำ สไบนางยังมิวายดื้อไม่ยอมให้ช่วย แต่พอเห็นอุปมาพยายามช่วยอย่างไม่ห่วงชีวิตก็แอบซึ้ง  ฉากนี้ ผิน เกรียงไกรสกุล ผู้กำกับยกกองไปถ่ายทำกันไกลถึงน้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก
     
              โดยถ่ายทำกันยากลำบากพอสมควร เพราะกระแสน้ำค่อนข้างแรง  แถมมาร์กี้ก็ตัวเล็กนิดเดียว ทำเอาแสดงบทดื้อๆ ไม่ออกเพราะแค่ยืนยังแทบไม่ไหว ทำท่าจะปลิวไปตามกระแสน้ำ ตอนซ้อมต้องมีผู้ช่วยมาคอยยืนจับน้องสาวไม่ให้ตกใจกลัวให้หายกังวล พอถ่ายทำจริงก็ค่อยถ่ายเจาะกันทีละช็อต ระหว่างถ่ายทำ หนุ่มบอยเป็นพี่ชายที่แสนดีคอยช่วยมาร์กี้ตลอด พอถ่ายไปได้สักพักฝนของจริงเริ่มตั้งเค้า เทลงมาอย่างหนัก ไม่ทันตั้งตัว ทั้งทีมงานและนักแสดงหลบกันไม่ทันมีร่มอันใหญ่อยู่อันเดียว ต้องเบียดกันอยู่  รอฝนซาเพื่อเริ่มถ่ายทำกันใหม่ กระแสน้ำยิ่งพัดแรงกว่าเดิม แต่ทั้งมาร์กี้และบอยสปิริตสูง ลุยถ่ายต่ออย่างไม่ย่อท้อ แม้กระแสน้ำที่แรง กว่าจะผ่านไปได้เล่นเอานางเอกของเราหนาวสั่นตัวซีดกันเลยทีเดียว
     
              ติดตามชมฉากนี้กันได้ในวัน ศุกร์ที่ 14 ตุลาคมนี้ เวลา 20.15 น.ทางช่อง 3

ที่มา คมชัดลึก

บ๊วย ปัดแยกห้อง ตุ๊ก

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'บ๊วย'ปัดแยกห้อง'ตุ๊ก'
"บ๊วย-เชษฐ วุฒิ วัชรคุณ" รับโดนด่าเละ หลังเจอข่าวสัมพันธ์ "โม-นภัสนันท์" หวิดทำเตียงหัก ปฏิเสธข่าวจูบไฮโซกลางสุวรรณภูมิ ยันยังไม่ได้แยกห้องนอนกับ "ตุ๊ก-ชนกวนันท์" ภรรยา

          ยังเป็นเรื่องที่คนจับตามองสำหรับเรื่องของครอบครัวของ "บ๊วย-เชษฐวุฒิ" และ "ตุ๊ก-ชนกวนันท์"  ที่ยังค้างคาว่าสรุปจะลงเอยอย่างไร เพราะมีชื่อของไฮโซสาวทายาทห้างทอง "ฮั่วเซ่งเฮง" อย่าง "โม-นภัสนันท์ พสวงศ์" พ่วงเข้าไปเป็นมือที่สาม โดยบ๊วยออกมาพูดไปแล้วครั้งหนึ่งว่าขอใช้เวลาในการตัดสินใจจนภรรยาสาว "ตุ๊ก" ออกมาปล่อยโฮผ่านสื่อว่าตอนนี้ครอบครัวเกิดวิกฤติมาก ล่าสุดพิธีกรหนุ่มได้ไปร่วมงาน "โรงพยาบาลพญาไท 1 เข้าใจคุณ" จึงใช้โอกาสนี้แก้ข่าวลือที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของการแยกห้องนอนกับภรรยา การโอบกอดกันกับ "โม" กลางสนามบินสุวรรณภูมิ และทางออกของชีวิตครอบครัวดังนี้
   
              "กำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง เรื่องการพูดคุยหรือปรับความเข้าใจกำลังเป็นไปในทางที่ดี ("ตุ๊ก" กลับมารับงานมากขึ้น) อย่าเรียกว่ากลับมาเลย เพราะเขามีหน้าที่เป็นคุณแม่ต้องเลี้ยงลูกไป แต่พอดีว่าเป็นข่าวขึ้นมา คนเลยอยากเชิญไปออกงานเท่านั้นเอง กับเรื่องที่จะกลับมาเดินแบบคงไม่มี ตอนนี้ผมพูดได้ว่าความสัมพันธ์เหมือนเดิม อีกอย่างตุ๊กเป็นคนทุ่มเทในเรื่องของการเลี้ยงลูก 100 เปอร์เซ็นต์ ผมเชื่อว่าเขาเสียลสะเวลาในการเลี้ยงลูก ส่วนที่ว่าตุ๊กเขาบอกว่าเขาเป็นซิงเกิ้ลมัมได้ ผมไม่เคยได้ยิน ส่วนเรื่องที่เขาให้สัมภาษณ์น้ำตาคลอ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นข่าวที่คนให้ความสนใจ เป็นเรื่องของครอบครัว น้ำตาคลอเป็นธรรมดา" พิธีกรหนุ่มแจง ก่อนจะเสริมต่อว่าช่วงนี้ได้มีการพูดคุยปรับจูนกัน
   
              "เราใช้การพูดคุยกัน ตอนนี้สถานการณ์ครอบครัวไปในทางที่ดี พูดจริงๆ เรื่องนี้ในอินเทอร์เน็ตผมโดนเละมาก ถ้าผมให้สัมภาษณ์มากมีผลต่อครอบครัวผมกับลูกและกับตุ๊ก ทุกคนได้รับผลกระทบหมดเลย คนดูอาจจะสนุกกับการเสพข่าวหรือวิเคราะห์ข่าวกันไป แต่คนที่ผลกระทบมากที่สุดคือครอบครัวของผม การที่เราพูดเยอะกับสื่ออาจจะโดนวิพากวิจารณ์ได้เยอะ" บ๊วยเผย
   
              ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีคนเห็น "บ๊วย" จูบปากกับ "โม" ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยในเรื่องนี้พิธีกรชื่อดังโต้เสียงแข็งว่าคงไม่ทำย่างนั้น แต่ได้ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิจริง แต่ไม่ได้ไปกับ "โม"
   
              "ผมไปสุวรรณภูมิจริง แต่ไม่ได้ไปกับโม และไม่มีการจูบกันอย่างแน่นอน ส่วนในเรื่องที่ว่าเช่าห้องแถวตึกออลซีซั่นอยู่กับโมนั้น ผมว่าถ้ามีการพูดต่อยอดไปเรื่อยๆ จะมีการขุดคุ้ยเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าผมพูดปฏิเสธเยอะจะกลายเป็นแก้ตัว ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แต่ผมไม่อยากพูดมาก ผมยืนยันว่าไม่มีเรื่องเช่าห้อง ตอนนี้ผมกับตุ๊กยังอยู่บ้านเดียวกัน (แยกห้องนอน) ไม่จริง ส่วนเรื่องที่ผมตอบไม่เคลียร์ ผมเป็นนักแสดง ทำงานอยู่ในจุดนี้ อยากให้คิดว่าถ้าเกิดเป็นผมจะตอบอย่างไร" ตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและวิตกกังวล

ที่มา คมชัดลึก