15.10.54

5 อันดับลูกสาวดารา สวยน่ารักโดนใจ



5 อันดับลูกสาวดารา สวยน่ารักโดนใจ!!!

เมื่อ คราวที่แล้ว "5 อันดับลูกชายดารา หล่อน่ารักโดนใจที่สุด" ได้รับเสียงตอบรับดีมาก หลายคนถามว่าแล้วลูกสาวดาราหายไปไหน ทีมข่าวบันเทิง S! News ไม่ได้ลืมค่ะ อย่าได้กังวลไป วันนี้เราได้รวบรวม 5 อันดับลูกสาวดาราที่น่ารักน่าหยิก และเป็นขวัญใจพ่อยกแม่ยกที่สุด มาให้ดูกันอย่างจุใจ ใครเป็นใครไปดูกันได้เลย!!!

ป.ล.การจัดอันดับ นี้ไม่มีสำนักโพลล์ที่ไหนรับรองอย่างเป็นทางการ ลูกสาวดาราคนไหนไม่ติดอันดับ ไม่ได้แปลว่าไม่สวยน่ารักหรือไม่ดังนะจ๊ะ



น้องลียา ลลียา เองตระกูล

ถือ เป็นโซ่ทองคล้องใจพ่อแม่ตัวจริงเสียงจริง เพราะจนถึงทุกวันนี้พ่อเป๊ก สัณชัย เองตระกูล กับแม่ธัญญ่า ธัญญาเรศ ก็ยังไม่หย่าขาดกันซักที พวกเราก็คงได้แต่หวังว่าความน่ารักของน้องลียาจะทำให้พ่อและแม่กับมาคืนดี กันได้เหมือนเดิม

น้องณดา ปุณณดา ปุณณกันต์

เพราะมีคุณแม่ เป็นซุปตาร์ดาวค้างฟ้า อย่าง กบ สุวนันท์ ปุณณกันต์ ส่วนคุณพ่อก็เป็นอดีตพระเอกดังและนักการเมืองสุดหล่ออย่างบรู๊ค ดนุพร ผลผลิตที่ได้คือลูกสาวน่ารักๆ อย่างน้องณดา ที่คุณย่าดาริกาทั้งรักทั้งหลง แต่หลายคนแอบแซวว่าแม่กบหาบิ๊กอายมาให้น้องณดาใส่ เพราะน้องณดาตาโตมาก!!!

น้องไลลา เจน บัทเทอรี่

ถ้า ขาดน้องไลลา ลูกสาวของพอลล่า เทเลอร์ กับเอ็ดเวิร์ด คงแย่แน่ๆ เพราะขนาดคุณแม่ยังไม่พาออกงานอย่างเป็นทางการ น้องไลลายังฮอตฮิตขนาดนี้ อนาคตฟันธงว่าเป็นน้องไลลาจะเป็นเจ้าแม่อีเว้นท์และพรีเซนเตอร์เหมือนคุณแม่ พอลล่าแน่นอน ฟันธง!!!

น้องยี่หวา ลูก โจ๊ก โซคูล

ด้วยบร๊ะลา นุภาพ ของบร๊ะเจ้าโจ๊ก จึงทำให้บร๊ะธิดาอย่างน้องยี่หวา ติดอันดับมากับเค้าด้วย เพราะลูกสาวโจ๊ก โซคูล หรือ กรภพ จันทร์เจริญ และ คุณแม่ฝน กัญญ์พชิรา นั้นแสนจะน่ารักน่าหยิกจนขโมยซีนพ่อไปเต็มๆ บร๊ะเจ้า ชาบู ชาบู

น้องพราว ลูกลิฟท์ สุพจน์

นี่ก็สำเนาถูกต้องอีกคน เพราะน้องพราว ลูกสาวลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ กับ หญิง นราวัลย์ เป๊ะมากหน้าตาเหมือนทั้งคุณพ่อคุณแม่ ไม่รู้ว่าโตมาจะใส่เสื้อลายทางสีแซ่บเอวลอย ร้องว่า"ดูมั้ยดู ดูมั้ยดู ดูไม่เสียตังค์.." เหมือนพ่อมั้ยเอ่ย

ที่มา สนุกดอทคอม

กฤษณ์ ฟ้องแน่ กุ อั้ม ให้ยืม10ล้าน



''กฤษณ์''ฟ้องแน่! กุ''อั้ม''ให้ยืม10ล.

    ''กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์'' สุดทน! เดินหน้าฟ้องคนกุข่าวยืมเงินนางเอก ''อั้ม-พัชราภา'' 10 ล้าน หลังมีผลกระทบต่อตัวเองและธุรกิจมากมาย เผยรู้ตัวคนพูดแล้ว รอรวบรวมข้อมูลและหลักฐานจะแถลงข่าวให้ทราบอีกที บอกงานนี้ไม่มีการเคลียร์ หรือยอมความ เผยไม่เกี่ยวกับโดนใส่ร้ายเล่นคุณไสย บอกไม่คิดลบภาพนี้ เพราะตัวเองทำรายการผี คนจะมองแบบนั้นก็ไม่ว่า

    ออกอาการเดือดจนทนไม่ไหวสำหรับดีเจหน้าตี๋  กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ เมื่อถูกคนไม่หวังดีใส่ร้ายว่าไปขอยืมเงินนางเอกวิก 7 สี ''อั้ม'' พัชราภา ไชยเชื้อ ถึง 10 ล้านบาท  ซึ่งทางสาวอั้มได้ออกมาโต้ข่าวแทนไปแล้ว 1 รอบ แต่ทั้งนี้ข่าวดังกล่าวมีผลกระทบต่อตัวหนุ่มกฤษณ์ และธุรกิจส่วนตัวของเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า  กฤษณ์ จะฟ้องคนที่ปล่อยข่าวนี้ออกมา
     
    เมื่อผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เจอ ''ดีเจกฤษณ์'' ที่มาร่วมงานครบรอบ 7 ปี สายการบินนกแอร์ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันก่อน  จึงได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งหนุ่มกฤษณ์ยืนยันว่าจะฟ้องร้องจริงๆ ตอนนี้ได้ปรึกษาทนายไว้แล้ว  อีกทั้งตนยังรู้ตัวคนปล่อยข่าว และกำลังอยู่ในช่วงเตรียมข้อมูลหลักฐานเอาผิด
     
    ''เรื่องฟ้องก็จริงๆ ได้คุยกับทางทนายไว้แล้ว จริงๆ ผมเข้าใจนะครับเรื่องคนสาธารณะ ว่าการเป็นข่าวเขาห้ามไม่ได้ บางเรื่องที่เขาไม่จริงผมก็ไม่ได้ออกมาพูดนะ  บางข่าวก็ปล่อยไป ไม่ได้ติดใจอะไร แต่บางเรื่องกระทบต่อตัวผม สิ่งที่ผมทำ ธุรกิจที่ผมกำลังทำอยู่ เขาไม่ใช่แค่ตัวผมคนเดียว เขาเป็นบริษัทผม พาร์ตเนอร์ผม ลูกน้องผม 40-50 ชีวิต ผมก็คงต้องดำเนินคดีครับ ตอนนี้ก็รู้ตัวคนปล่อยข่าวแล้ว รอเวลาอยู่ครับ ใกล้แล้ว ถ้าได้ข้อมูลครบและพร้อมเมื่อไหร่คงจะแถลงข่าวให้ทราบอีกที  แต่อันนี้ไม่ได้หมายถึงฟ้องสื่อมวลชนโดยรวมครับ เป็นแค่กลุ่มคน และบุคคลบางบุคคล  ผมไม่เจาะจงล่ะกัน เดี๋ยวไปว่ากันในศาลล่ะกันครับ ถ้าเป็นเรื่องจริงผมจะไม่ว่าเลย แต่เขาไม่จริงเลย ผมก็ต้องออกมาปกป้องสิ่งที่ผมควรจะปกป้องเท่านั้นเอง จากข่าวที่เกิดขึ้นเขาส่งผลกระทบมากครับ ก็มีลูกค้ามาถาม คนโดยรอบทุกวันนี้ก็ไม่ได้มองผมดีแล้วครับ ประชาชนที่เค้าไม่เข้าใจ เสพสื่อ เขาก็มีผลกระทบหมดครับ''
     
    ต่อข้อถามว่าหลังจากมีข่าวได้คุยกับคู่กรณีที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใครบ้างไหม เรื่องนี้ดีเจหนุ่มบอกว่า ไม่เตือน ไม่คุยและไม่เคลียร์อะไรทั้งสิ้น
     
    ''ไม่เตือนครับ เดี๋ยวเค้ารู้ตัวครับ เรื่องนี้ผมพูดชัดเจนแล้วครับว่าไม่เคลียร์ใดๆ ทั้งสิ้น ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล ถ้าคุณมั่นใจว่าถูก  คุณก็ฟ้องกลับผมได้ไม่เป็นไร เชิญครับ''
     
    เมื่อถามว่าสาเหตุที่ฟ้องนั้นมาจากเรื่องข่าวยืมเงิน ''อั้ม-พัชราภา'' อย่างเดียวเลยหรือเปล่า เรื่องนี้กฤษณ์บอกว่า ทุกเรื่องที่ทำให้ตนเสียหาย
     
    ''ก็ทุกเรื่อง ข่าวที่เขาทำให้ผมเสียหายและเป็นข่าวที่ไม่จริง  เขาไม่ใช่ครั้งแรกครับที่เขาพูด หลายครั้งแล้ว แต่ก็ดี พูดต่อไปครับ ก็ใกล้แล้วครับ''
     
    ส่วนจะฟ้องเรื่องโดนว่าเล่นไสยศาสตร์ด้วยหรือเปล่านั้น ดีเจชื่อดังบอกว่า
     
    ''ไม่ครับ ใครจะว่ายังไงก็ว่าไป ไม่สนใจครับ เข้าใจครับ ก็ดีครับ รายการที่ผมทำจะได้ดังดี แต่ถ้าอะไรที่เขาเกี่ยวกับธุรกิจ ผมก็ต้องขออนุญาตปกป้องสิทธิส่วนตัวผมนิดนึงครับ  กับภาพที่คนมองว่าเล่นคุณไสยเนี่ย ผมเองก็ไม่ได้อยากลบนะ ผมเข้าใจนะภาพลักษณ์ผมเป็นแบบนี้ เพราะผมทำรายการผีด้วย เข้าใจ คนจะมองเป็นลักษณะนั้นก็โอเคครับ ก็มีคนมาถามผมว่าไปลงของวัดไหน เข้าใจหมดครับ วัดที่ผมไปบวชก็มีคนโทร.ไปนะครับ ว่าวัดนี้ผมไปลงอะไร  สงสารหลวงพ่อมากเลย''
     
    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตั้งแต่มีข่าวได้คุยหรือปรึกษาอั้มบ้างหรือเปล่า เรื่องนี้กฤษณ์บอกว่า
     
    ''ไม่ได้คุยครับ คนละส่วนกัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอั้มครับ เค้าก็ตอบในส่วนที่เค้าต้องตอบไปแล้วว่าเค้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ผมกับคุณอั้มเป็นเพื่อนกัน ตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไร เวลาไปไหนด้วยกันก็เปิดเผย คุยกันก็ไม่ได้ปิดบังอะไร''
     
    ''ส่วนตัวผมก็มีคนคุยๆ อยู่ครับ แต่ว่าก็ยังเป็นเพื่อนกันหมด ยังไม่ได้ตกลงปลงใจอะไร''
     
    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ให้หนุ่มกฤษณ์ฝากบอกถึงคนที่เข้าใจผิดว่าจะฝากอะไรบ้าง เรื่องนี้ดีเจหนุ่มบอกว่า
     
    ''ผมเข้าใจว่าหลังจากที่ผมมีข่าวกับคุณช่า (มาช่า วัฒนพานิช) เขาก็มีข่าวลักษณะแนวนี้ออกมา ผมก็อธิบายเกี่ยวกับคุณช่าชัดเจนไปแล้วว่าเรื่องราวคืออะไร ผมไม่อยากจะมาแตกดีเทลว่าเขาเป็นยังไง ต้นตอเขามายังไง ทำไมเขาจบแบบนี้ เรารู้สึกว่าเขาเป็นเรื่องส่วนตัว และผมเป็นผู้ชายก็ไม่อยากพูดอะไรให้เขายืดเยื้อ อันไหนที่เขากระทบตัวผม เล่นของ เสกผี อะไรก็แล้วแต่ผมโอเค เข้าใจครับ เขียนได้เต็มที่เลย อันไหนที่รุนแรงเกินไป เช่น ผมไปเกาะใครอย่างนั้นอย่างนี้ ผมพูดชัดเลยครับว่าเงินสิบล้านผมมีปัญญาหาครับ ถ้าร้อยล้านพันล้านก็ว่าไปอย่าง ทำงานมาตั้งนานสิบล้านไม่ใช่ว่าไม่มี งานที่ผมทำ สิ่งที่ผมเป็นอยู่ ถ้าคนที่รู้จักผม คนที่เห็นสิ่งที่ผมทำสิบล้านเขาธรรมดา''
     
    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า คนมองว่าทำรายการแฉแต่เช้า แฉคนอื่นแต่พอตัวเองโดนแฉไม่ยอม รู้สึกอย่างไร เรื่องนี้ดีเจหนุ่มเผยว่า
     
    ''ถ้าผมโดนแฉเองถ้าสิ่งนั้นเขาเป็นเรื่องที่ไม่จริง แล้วไม่กระทบต่อตัวผมก็ไม่ยุ่งครับ แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริงแล้วกระทบต่อตัวผมมากเกินไป ผมก็ต้องออกมาปกป้องก็เป็นเรื่องธรรมดา คุณจะแฉอะไรผม ว่าผมก็โอเค เข้าใจ แต่ถ้าบางเรื่องไม่จริง แล้วเยอะเกินไป ว่าผมไปเกาะคนนั้นคนนี้ อยากจะพูดเลยว่า ตัวคุณอั้มก็ไม่ได้โง่นะครับ เค้าโตแล้ว ผมพูดชัดเจนเลยว่าเค้ามีสมองพิจารณาให้ดี ใครดี ใครไม่ดี ใครเป็นยังไง ส่วนตัวผมเองอยู่วงการนี้มานาน ทำธุรกิจ หรือทำงานในเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังเองก็หลายงาน เพราะฉะนั้นผมไม่ทำอย่างนั้นหรอก''  ดีเจหนุ่มกล่าว

ที่มา สยามดารา

แอ๊ด คาราบาว ส่งพลังใจผ่านบทเพลง น้ำใจไทย



''แอ๊ด คาราบาว''ส่งพลังใจผ่านบทเพลง''น้ำใจไทย''
    ในภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทั่วประเทศ ส่งผลให้เหล่าประชาชนคนไทย ต่างกำลังประสบปัญหาเดือดร้อน ทั้งไร้ที่อยู่อาศัย ขาดเครื่องอุปโภค-บริโภคที่สะอาด รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บ จากปัญหาน้ำเน่าเสีย ปัญหายุงลาย ปัญหาความปลอดภัยในด้านต่างๆ อยู่ในขณะนี้


    ล่าสุด นักร้อง-นักแต่งเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ''แอ๊ด'' ยืนยง โอภากุล หรือ ''แอ๊ด คาราบาว'' จากค่าย วอร์นเนอร์ มิวสิค ได้ส่งพลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย ในภาคต่างๆ ด้วยการแต่งบทเพลงจากความรู้สึก เพื่อเป็นแรงพลังในการต่อสู้ ผลักดันปัญหา และผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ที่เผชิญอยู่ให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วพลัน

   
    โดยเพลง น้ำใจไทย มีเนื้อร้อง ดังต่อไปนี้

    น้ำท่วมยิ่งมากเท่าไร               น้ำใจไทยยิ่งมากกว่านั้น
    เราคนไทยไม่เคยทิ้งกัน          เราคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน
    จะฝ่าวิกฤตน้ำไปด้วยกัน          จะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
    น้ำใจท้นท่วม                             ร่วมแก้ปัญหา
    น้ำเหนือไหลบ่า                         นาไร่ล่มจม
    ดินโคลมถล่ม                            ทลายลุ่มเจ้าพระยา
    ท่าจีน ปิง วัง                              ยม น่าน ยัน โขง ชี มูล

    ร้อยวันพันปี                               ก็มีเพียงครั้งนี้
    ที่น้ำฝนไหลรี่                             น้ำผีไหลบ่า
    หลั่งเลือดน้ำตา                          สู้แรงวารี
    มีแต่เพียงศรัทธา                       แห่งความรักและผูกพัน

    เขื่อนคาว่าสูง                             ตลิ่งใจสูงกว่า
    คนไทยทั่วหล้า                          ส่งกำลังใจถึงกัน
    ซื้อข้าวซื้อของ                          ใส่กระสอบฝัน
    ต้องมีสักวัน                                จะผ่านพ้นเขาได้เอง
    มีสักวัน                                        จะผ่านพ้นไปได้เอง

    จะฝ่าวิกฤตน้ำไปด้วยกัน            จะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

ที่มา สยามดารา

น้องเบสท์ มีตาเขียว พีช ควง ฉัตร สวีต

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


''น้องเบสท์''มีตาเขียว! ''พีช''ควง''ฉัตร''สวีต

    พระเอกขวัญใจวัยรุ่น ''พีช'' พชร จิราธิวัฒน์ ที่กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง ''วัยรุ่นพันล้าน'' ขอซ้อมควงแขนนางเอกสาวดาวรุ่ง 7 สี ''ฉัตร'' ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร พรีเซนเตอร์ซิตร้า โชว์ไฮไลต์ชอตสุดโรแมนติกกลางห้าง ที่หนุ่มพีชเตรียมไว้เพื่อถ่ายเอ็มวีเพลงฮิตร่วมกับ 22 สาววินเทอร์ของซิตร้า-นางเอกมิวสิกวิดีโออวดผิวเนียนนุ่มกระจ่างใสกลาง อุณหภูมิติดลบที่ประเทศเกาหลี พร้อมร่วมตะลุยหนาวสุดขั้วทัวร์จุใจ 5 วัน 3 คืนฟรีร่วมกันกับพีช ในแคมเปญ ''ซิตร้า ท้าหนาวสุดขั้ว ตะลุยทัวร์เกาหลี ปี 3''

    หนุ่มพีชเปิดใจว่า ''ทริปนี้จะเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่จะได้ไปเที่ยวเกาหลี และยังสุดพิเศษสุดๆ เพราะผมจะได้ควงแขนไปกับสาวผิวใส ซึ่งไม่ได้มีแค่ 1 คนแต่ผมจะควงแขน 22 สาวกันเลยทีเดียว ก็ตื่นเต้นดีครับ  รับรองว่านอกจากจะได้ไปถ่ายมิวสิกวิดีโอสุดโรแมนติกมาอวดเพื่อนๆ ทางยูทูบและเฟซบุ๊กแล้ว ยังได้เที่ยว-กิน-นอนแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ประเทศเกาหลีตั้ง 5 วัน 3 คืนทั้งตามรอยซีรีส์ชื่อดังที่ อิงลิช วิลเลจ  หนึ่งในฉากดังของ เอฟโฟร์  หรือแนวเขาๆ ปนโรแมนติกอย่างการปั่นจักรยานที่เกาะนามิ หรือไปสนุกแบบเอ็กซ์ตรีมที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์และสกีรีสอร์ต ฯลฯ''
     
    ''ดีใจที่ทางซิตร้าเลือกให้มาเป็นตัวแทนในครั้งนี้ ซึ่งทางทีมงานบอกว่าเลือกจากผลโหวตจากประชาชนว่าเป็นหนุ่มฮอต ก็ปลื้มครับ แต่ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองฮอตอะไร ยังเป็นเด็กคนหนึ่งที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน และก็ยังเป็นตัวของเราเองครับ''
     
    ถามถึงสเปกสาวๆ หนุ่มพีช ก็บอกว่า ''จริงๆ ผมชอบผู้หญิงที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เข้ากับเราได้ เข้าใจว่าเราทำงานแบบนี้ ในวงการเวลาเขาไม่แน่นอน แล้วก็ผิวสวยนุ่มกระจ่างใส สม่ำเสมอกัน''
     
    เมื่อถามว่า แล้ว ''เบสท์ วงโอลีฟส์'' ที่มีข่าวสนิทสนมกันนี่ ตรงสเปกหรือเปล่า หนุ่มพีชถึงกับอมยิ้ม ก่อนจะบอกว่า ตรงบ้างเหมือนกัน ''ก็ตรงบางอย่างนะครับ เขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่ดี แต่ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันอย่างที่บอกครับ''
     
    ส่วนสาวคนไหนที่อยากร่วมลุ้นเป็นนางเอกเอ็มวีพร้อมเที่ยวท้าหนาวสุดขั้วที่ เกาหลีกับพีช ก็ติดตามได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2554 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2867-3522 หรือ www.CitraThailand.com และ www.facebook.com/citrathailand

ที่มา สยามดารา

ย้อนชีวิต อ.กวี สัตโกวิทกวีเอกแห่งเพลงไทยร่วมสมัย

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


ย้อนชีวิต อ.กวี สัตโกวิทกวีเอกแห่งเพลงไทยร่วมสมัย

    เมื่อเอ่ยถึงครูเพลงรุ่นกลางที่มีผลงานอมตะอันไพเราะอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ชื่อของ อ.กวี สัตโกวิท ย่อมถูกนึกถึงอยู่เสมอ จากผลงานการประพันธ์คำร้องบทเพลงไทยสากลร่วมสมัยไม่ว่าจะเป็น รักข้ามขอบฟ้า, ชั่วฟ้าดินสลาย, ใจเอ๋ย, โลกกับความรัก, สวรรค์อำพราง, คนเลวของเธอ ฯลฯ ซึ่งนับเป็นข่าวดีของแฟนเพลงที่เพลงเหล่านั้น และเพลงที่ถูกประพันธ์ขึ้นใหม่รวมกว่า 30 บทเพลงร่วมกับ เรืออากาศตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ กำลังจะถูกนำมาถ่ายทอดด้วยทำนองแจ๊สที่งดงามในคอนเสิร์ตการกุศล ''สีสันวันแจ๊ส'' คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ที่มาจากแนวคิดของ อ.กวี และ ดร.แมนรัตน์ สองปรมาจารย์เพลงระดับประเทศที่ต้องการให้บทเพลงอันทรงคุณค่ายังอยู่คู่วง การเพลงไทยตลอดไป

    และเพื่อเป็นการตอบรับคอนเสิร์ต ''สีสันวันแจ๊ส'' ที่กำลังจะมาถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ สยามดาราจึงขอเริ่มต้นสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับเหล่าบุคคลสำคัญที่มีส่วนร่วมใน คอนเสิร์ตประวัติศาสตร์ครั้งนี้ โดยขอประเดิมด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของ อ.กวี สัตโกวิท ผู้เป็นกวีเอกในการแต่งเติมเรื่องราวอันงดงามภายใต้ท่วงทำนองดนตรีที่ ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ รังสรรค์ขึ้นมา
     
    อ.กวี สัตโกวิท มีชื่อจริงว่า กวีวรรษ สัตโกวิท เป็นคนตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2483 เป็นบุตรของ นายนุ้ย และนางแดง สัตโกวิท ส่วนนามปากกาที่ชื่อว่า อ.กวี สัตโกวิท นั้นก็มีที่มาเช่นกัน กล่าวคือเพราะคุณยายของท่านจำชื่อที่พระตั้งชื่อว่า ''กวีวรรษ'' ไม่ได้ เมื่อนำไปฝากเรียนที่โรงเรียน ยายจึงบอกครูว่าชื่อ ''อุดม'' เพราะเป็นเด็กที่อ้วนสมบูรณ์มาก จึงใช้ชื่ออุดมเรื่อยมา ดังนั้น อ.จึงหมายถึง ''อุดม'' นั่นเอง
     
    จากนั้นเด็กชายอุดมจึงเริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดท่านคร ใกล้บ้าน แต่ไปจบชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดพระบรมธาตุ (เทศบาล 1) แล้วเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนนครวิทยา ต่อมาเมื่อพี่สาวย้ายไปอยู่ที่ชุมพร จึงเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่อที่โรงเรียนชุมพรศึกษา แล้วย้ายกลับมาเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนพรสวัสดิ์วิทยา เมื่อปี พ.ศ. 2500 เข้ามาเรียนหนังสือชั้นเตรียมอุดมศึกษาที่โรงเรียนวัดราชาธิวาสและเริ่มลอง แต่งเพลงบ้างแล้ว ก่อนจะเข้าศึกษาต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในวัยอุดมศึกษาเป็นช่วงที่ อ.กวี สัตโกวิท เริ่มต้นการเขียนเพลงอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกในชีวิต
     
    โดยครู อ.กวี เล่าย้อนให้ฟังว่า ''ตอนเรียนหนังสือผมเป็นคนชอบเขียนกลอนเขียนอะไรประเภทนี้มาก่อน เพราะตอนนั้นเรียนมาทางอักษรศาสตร์ ขณะที่เพื่อนๆ ส่วนใหญ่มักจะเรียนวิทยาศาสตร์ แต่ผมชอบภาษาไทยผมว่าเขาเป็นภาษาที่ดิ้นได้เยอะมากนะ มีคำไพเราะที่เราสามารถนำมาร้อยเรียงกันได้เยอะมาก และสิ่งที่ท้าทายคือความสัมผัสของภาษากวีคำบางคำที่เราหาที่ลงไม่ได้ แต่พอเขาหาได้เขาก็กลายเป็นคำที่แปลกใหม่ บางครั้งความหมายดีกว่าที่เราคาดคิดไว้ซะอีก สิ่งเหล่านี้เขาท้าทายให้เราคิดและต้องคิดให้ได้ ซึ่งก็เหมือนการแต่งเพลง การแต่งเพลงนั้นก็มาจากกลอนเหมือนกัน ไม่ว่าเราจะแต่งเพลงประเภทไหนเราก็แต่งในแนวของกลอนทั้งนั้น แต่เขาไม่เหมือนกับกลอนตรงที่เขามีเมโลดี้มีโน้ตกำกับที่เราจะต้องเขียนไป ตามนั้น กลอนนั้นเราเขียนยังไงก็ได้ แต่เพลงไม่เหมือนกันเขามีโน้ตมาบังคับให้เราต้องเขียนเสียงสูงต่ำเขาเป็น ความยากและท้าทายมากกว่า
     
    แต่ด้านดนตรีผมเคยเรียนครับ แต่ว่าไม่เก่ง (ยิ้ม) เพราะเรามาเรียนตอนโตแล้ว คือถ้าใครจะเรียนดนตรีแนะนำให้เรียนตอนเด็กๆ นะครับมือไม้เขาจะไปมากกว่าคนเป็นผู้ใหญ่ที่มือไม้แข็งไปหมดแล้วเรียนยังไง ก็ไม่เก่ง ตัวผมเองก็พอรู้แต่ว่าอยู่ในระดับธรรมดาจะถนัดด้านการแต่งเนื้อร้องเป็นส่วน ใหญ่''
     
    ทว่าชีวิตการเป็นนักแต่งเพลงไม่อาจเป็นงานหลักที่หาเลี้ยงปากท้องได้ โดยในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ทำงานหารายได้พิเศษไปด้วย โดยเข้าทำงานประจำที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในทำเนียบรัฐบาล และจัดเพลงที่สถานีวิทยุ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และ สถานีวิทยุ ท.ท.ท. สี่แยกคอกวัว ซึ่งตอนนั้นเองเป็นช่วงที่ อ.กวี ต้องเลือกระหว่างงานหาเลี้ยงชีพกับงานที่ตัวเองรัก
     
    ''เพลงแรกที่แต่งคือเพลงฟ้ารำลึกให้คุณสุเทพขับร้องตอนปี พ.ศ.2504 เส้นทางแต่งเพลงในยุคนั้นที่จริงก็ไม่ค่อยดีหรอกครับ รายได้ที่รับมาก็ไม่พอใช้จ่าย เขาไม่สามารถทำเป็นอาชีพได้ แต่ว่าเราทำด้วยใจรักมากกว่า ตอนนั้นผมก็อยู่ไม่ได้ด้วยอาชีพนักแต่งเพลง ตอนนั้นเรียนมหาวิทยาลัยและก็ทำงานไปด้วยอยู่ที่สำนักงานเลขาธิการคณะ รัฐมนตรีในทำเนียบรัฐบาล แต่ว่าทำอยู่ไม่นานเพราะความชอบทางเพลงของเรา และอีกอย่างคือพอเรามีชื่อเสียงขึ้นมาจากหลายๆ เพลงที่เราแต่ง ก็มีเจ้าของหนังมาจ้างเราให้เขียนเพลงประกอบภาพยนตร์ พองานเขาเยอะขึ้นมาก็ทำให้เราขาดราชการบ่อยจึงทำให้เราตัดสินใจลาออก จากราชการ''
     
    ครูเพลงรุ่นใหญ่เล่าให้เราฟังด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบจนเรานึกว่าชีวิตช่วง นั้นของเขาจะเป็นช่วงที่ลำบากในชีวิตศิลปิน แต่ตรงกันข้าม เพราะจากการที่ อ.กวี คลุกคลีอยู่กับนายทุนสร้างหนังมาตลอด จึงทำให้เขามีโอกาสในการผันตัวเองมาเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ควบคู่กับ การเป็นนักแต่งเพลงอย่างที่ตัวเองต้องการ โดยมีหนังเรื่องแรกคือ ''ปีศาจเสน่หา'' ในปี พ.ศ.2510  ได้มิตร-เพชรา มาเป็นคู่พระ-นาง จากนั้นก็มีการสร้างภาพยนตร์เรื่อยมา
     
    ''ถ้าถามว่าการสร้างหนังประสบความสำเร็จมั้ย ผมมองว่าการสร้างหนังก็เป็นงานอีกด้านหนึ่งที่ทำให้ภาวะการเงินของเราหมุน คล่องขึ้น จากเดิมที่เราเขียนเพลงได้ไม่กี่ร้อยบาท แต่พอเรามาทำงานด้านหนังก็ทำให้เราได้จับเงินเป็นหมื่นเป็นแสนจนถึงเป็นล้าน คือการหมุนเวียนเขาดีขึ้นกว่าเก่า คือทุกอย่างเขาทำให้เราถีบตัวขึ้นมา''
     
    อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา ในที่สุด อ.กวี สัตโกวิท ก็วางมือจากงานภาพยนตร์และกลับมาอยู่ในสิ่งที่รักมากที่สุดนั่นคือการแต่ง เพลง
     
    ''คือตอนนั้นอายุเรามากขึ้น และการทำภาพยนตร์เราก็ต้องอยู่กับคนมากมาย มีทีมงานในการถ่ายทำ ดารา ต้องควบคุมคนเยอะๆ ความรับผิดชอบเยอะ เขาเหนื่อย แต่การทำเพลงเราทำกันอยู่ไม่กี่คน ทำในกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ทำให้คนกลุ่มใหญ่ฟังได้เหมือนกัน ทำแล้วเขาสบายใจกว่า เขาเหนื่อยน้อยกว่า ก็เลยเลิกงานสร้างภาพยนตร์มาอยู่กับเพลงจนถึงวันนี้  งานที่เรารักมากที่สุดก็คือเพลง เราเคยห่างจากงานเพลงไปทำภาพยนตร์อยู่ 6-7 ปี เราก็ต้องกลับมาอยู่กับงานเพลงอีก ก็กลับมาจัดคอนเสิร์ต แต่งเพลงใหม่ๆ ขึ้นมา''
     
    เมื่อถามถึงการกลับมาสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่อีก 11 บทเพลง ร่วมกับ ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ซึ่งเตรียมถูกถ่ายทอดในคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ ''สีสันวันแจ๊ส'' ครูเพลง อ.กวี สัตโกวิท กล่าวว่า ''คือบทเพลงไทยนั้นเราต้องหาทางให้เขามีการสืบทอด จะเห็นว่าเพลงไทยเก่าๆ ที่ไม่ตายคือเพลงที่ได้มาตรฐานมีหลายเพลงที่ทุกวันนี้ยังมีคนนำกลับมาร้อง อยู่ แต่เราจะเอาไว้ให้เขามีแค่นั้นหรือ ดังนั้นเราจึงคิดแต่งเพลงใหม่ขึ้นมาเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้ว่าบทเพลงที่ ดีๆ ไม่ได้มีแค่นั้น เขาต้องมีเพิ่มขึ้นมาอีก ไม่ได้อยู่กับที่ แต่เขาต้องมีการสืบทอดเพื่อจะให้เพลงไม่อยู่กับที่และเด็กจะได้รู้จักเพลง ใหม่ๆ มากขึ้นครับ''
     
    ทุกวันนี้ อ.กวี สัตโกวิท ยังคงทำงานเกี่ยวกับเสียงเพลงร่วมสมัย โดยผลิตรายการอยู่ที่ช่องเฉลิมกรุงทีวี ขณะที่งานด้านภาพยนตร์ก็ใช่ว่าจะหายไปจากครอบครัวสัตโกวิทซะทีเดียว เมื่อเขามีทายาทที่ชื่อ ''บอม'' อัศจรรย์ สัตโกวิท เป็นผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นใหม่ของวงการหนังไทย
     
    สำหรับคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์เพื่อการกุศล ''สีสันวันแจ๊ส'' จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. 54 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป เปิดจำหน่ายบัตรวันที่ 20 ต.ค. ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา บัตรราคา 500/800/1,000/1,500/2,000/2,500 บาท โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายบัตรมอบให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา

ที่มา สยามดารา

13.10.54

พันช์ แฮปปี้อินเลิฟหนุ่ม ชุมพร

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'พันช์'แฮปปี้อินเลิฟหนุ่ม'ชุมพร'
"พัน ช์" วรกาญจน์ โรจนวัชร เผยคบหนุ่มตี๋ชุมพร 3 ปี แฮปปี้ แต่ยังไม่คิดวางแผนอนาคตร่วมกัน ส่วนแม่ไฟเขียว แย้มละคร "ท่านชายในสายหมอก" ร่วมงาน หลุยส์ สก็อต ครั้งแรก ชมพระเอกหนุ่มดูอัธยาศัยดี

          นักร้องสาวเสียงดี "พันช์" วรกาญจน์ เปิดเผยว่า หนุ่มตี๋ที่ซุ่มดูใจกว่า 3 ปี นั้นแม่ไฟเขียว ล่าสุดเจอตัวสาวพันช์ ในงานบวงสรวงละคร "ท่านชายในสายหมอก และ สะใภ่ซ่าส์แม่ย่าเฮี้ยน" ณ บริษัท ทีวีธันเดอร์ พันช์ เผยรายละเอียดดังนี้
   
              "ความรักก็ดี คบมา 3 ปีกว่าแล้ว บ้านเขาทำธุรกิจขายอุปกรณ์ก่อสร้างอยู่ชุมพร เป็นคนจีน (คลิกตรงไหน) เขาเป็คนดูสุภาพดี ปกติพันช์จะห้าวๆ ตรงๆ ไม่ชอบจะบอกว่าไม่ชอบ บุคลิกไม่ค่อยเหมือนกันเลย เข้ากันได้ (ใครจีบใครก่อน) เขาชอบพันช์ก่อนแหละ แต่เราดูแล้วรู้สึกว่าน่าจะเข้ากันได้ ตอนแรกที่รู้จักกัน เขาเข้าทางแม่พันช์เลย (หัวเราะ) ถามว่าแม่ว่าอย่างไร แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแม่จะแล้วแต่พันช์ทุกอย่าง เพราะเราดูแลตัวเองได้ ถ้าใครเข้ามายังไง เราจะมองออกและรู้สึกได้เอง พันช์จะเป็นคนสกรีนเองเลย ถ้าไม่ชอบคือไม่ชอบ ถามว่าวางแผนอนาคตไว้มั้ย ยังหรอก พันช์รู้สึกว่าตัวเองยังเด็กอยู่ เพราะตอนนี้เราโอเคแฮปปี้ดี รอเวลาปล่อยไปเรื่อยๆ รอให้เขามีหลักฐานที่มั่นคงกว่านี้ก่อน" พันช์กล่าว
   
              ถามต่อถึงผลงานละครเรื่องที่ 2 "ท่านชายในสายหมอก" ซึ่งร่วมงานกับหลุยส์ เป็นเรื่องแรก พันช์เผยว่าน่าจะร่วมงานกันง่าย เพราะหลุยส์ดูเป็นคนอัธยาศัยดี
   
              "ครั้งนี้เพิ่งได้ร่วมงานกับพี่หลุยส์ครั้งแรก แต่คิดว่าน่าจะทำงานร่วมกันง่าย เพราะเขาเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มแย้ม มีคุยทักทายกันบ้าง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นละครคอมเมดี้ตลกๆ ดราม่าน้อยกว่าเรื่องทัดดาวบุษยามาก จะออกคอมเมดี้ส่วนใหญ่ ต้องมีปลอมตัวเป็นผู้ชายด้วย เพราะต้องเข้าไปเป็นคนรับใช้ของเจ้าชาย(ปลอมตัวเป็นผู้ชายคล้ายเรื่องที่ แล้ว) อาจจะคล้ายๆ กัน พันช์ไปค้นในอินเทอร์เน็ตดู เลยรู้ว่าเรื่องนี้เป็นละครรีเมกด้วย (เล่นละครคล้ายๆ กันเบื่อมั้ย) ตอนนี้ยังไม่เบื่อ แต่ถ้ามีเรื่องหน้า อาจจะคิดนิดหนึ่ง กลัวคนจะติดภาพ แต่ถ้าเรื่องหน้าติดต่อมาแบบนี้ พันช์คิดว่าผู้ใหญ่คงให้พอก่อน เพราะกลัวคนดูจะเลี่ยน เรื่องนี้จะเริ่มถ่ายปลายเดือนตุลาคม และออนแอร์ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า ถามว่ากลัวมั้ยว่ากระแสตอบรับจะไม่แรงเท่าเรื่องแรก อาจจะมีบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่กังวล พันช์มีเตรียมใจไว้อยู่แล้ว" พันช์กล่าวปิดท้าย

ที่มา คมชัดลึก

มาร์กี้ โดนน้ำตัวซีดถ่ายฉากซึ้งกับ บอย

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'มาร์กี้'โดนน้ำตัวซีดถ่ายฉากซึ้งกับ'บอย'
'มาร์กี้'โดนน้ำตัวซีดถ่ายฉากซึ้งกับ'บอย':ตะลุยตะลอนกอง

            แสนซนจนได้เรื่องจนได้สำหรับนางเอกจอมแก่น "มาร์กี้" ราศรี บาเลนซิเอก้า ที่ดื้อออกไปพายเรือเล่นน้ำที่ไหลแรงจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ในละคร "รอยมาร" ของค่ายทีวีซีน ดื้อแบบนี้พระเอกอย่าง "บอย" ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เขาจะมีใจอยากช่วยมั้ยเนี่ย
     
              ฉากนี้ เป็นตอนที่สไบนาง (มาร์กี้) หนีอุปมา (บอย) เพราะไม่อยากเจอหน้า คว้าเรือพายออกไปคนเดียว อุปมาเห็นน้ำเริ่มเชี่ยวและไหลแรง เลยพายเรือตามไปเจอกับสไบนางที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือเพราะโดนกระแสน้ำ พัดเรือล่มติดอยู่กับโขดหินก่อนจะถึงน้ำตก อุปมารีบเข้ามาช่วยจนทั้งสองคนติดอยู่กลางน้ำ สไบนางยังมิวายดื้อไม่ยอมให้ช่วย แต่พอเห็นอุปมาพยายามช่วยอย่างไม่ห่วงชีวิตก็แอบซึ้ง  ฉากนี้ ผิน เกรียงไกรสกุล ผู้กำกับยกกองไปถ่ายทำกันไกลถึงน้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก
     
              โดยถ่ายทำกันยากลำบากพอสมควร เพราะกระแสน้ำค่อนข้างแรง  แถมมาร์กี้ก็ตัวเล็กนิดเดียว ทำเอาแสดงบทดื้อๆ ไม่ออกเพราะแค่ยืนยังแทบไม่ไหว ทำท่าจะปลิวไปตามกระแสน้ำ ตอนซ้อมต้องมีผู้ช่วยมาคอยยืนจับน้องสาวไม่ให้ตกใจกลัวให้หายกังวล พอถ่ายทำจริงก็ค่อยถ่ายเจาะกันทีละช็อต ระหว่างถ่ายทำ หนุ่มบอยเป็นพี่ชายที่แสนดีคอยช่วยมาร์กี้ตลอด พอถ่ายไปได้สักพักฝนของจริงเริ่มตั้งเค้า เทลงมาอย่างหนัก ไม่ทันตั้งตัว ทั้งทีมงานและนักแสดงหลบกันไม่ทันมีร่มอันใหญ่อยู่อันเดียว ต้องเบียดกันอยู่  รอฝนซาเพื่อเริ่มถ่ายทำกันใหม่ กระแสน้ำยิ่งพัดแรงกว่าเดิม แต่ทั้งมาร์กี้และบอยสปิริตสูง ลุยถ่ายต่ออย่างไม่ย่อท้อ แม้กระแสน้ำที่แรง กว่าจะผ่านไปได้เล่นเอานางเอกของเราหนาวสั่นตัวซีดกันเลยทีเดียว
     
              ติดตามชมฉากนี้กันได้ในวัน ศุกร์ที่ 14 ตุลาคมนี้ เวลา 20.15 น.ทางช่อง 3

ที่มา คมชัดลึก

บ๊วย ปัดแยกห้อง ตุ๊ก

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'บ๊วย'ปัดแยกห้อง'ตุ๊ก'
"บ๊วย-เชษฐ วุฒิ วัชรคุณ" รับโดนด่าเละ หลังเจอข่าวสัมพันธ์ "โม-นภัสนันท์" หวิดทำเตียงหัก ปฏิเสธข่าวจูบไฮโซกลางสุวรรณภูมิ ยันยังไม่ได้แยกห้องนอนกับ "ตุ๊ก-ชนกวนันท์" ภรรยา

          ยังเป็นเรื่องที่คนจับตามองสำหรับเรื่องของครอบครัวของ "บ๊วย-เชษฐวุฒิ" และ "ตุ๊ก-ชนกวนันท์"  ที่ยังค้างคาว่าสรุปจะลงเอยอย่างไร เพราะมีชื่อของไฮโซสาวทายาทห้างทอง "ฮั่วเซ่งเฮง" อย่าง "โม-นภัสนันท์ พสวงศ์" พ่วงเข้าไปเป็นมือที่สาม โดยบ๊วยออกมาพูดไปแล้วครั้งหนึ่งว่าขอใช้เวลาในการตัดสินใจจนภรรยาสาว "ตุ๊ก" ออกมาปล่อยโฮผ่านสื่อว่าตอนนี้ครอบครัวเกิดวิกฤติมาก ล่าสุดพิธีกรหนุ่มได้ไปร่วมงาน "โรงพยาบาลพญาไท 1 เข้าใจคุณ" จึงใช้โอกาสนี้แก้ข่าวลือที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของการแยกห้องนอนกับภรรยา การโอบกอดกันกับ "โม" กลางสนามบินสุวรรณภูมิ และทางออกของชีวิตครอบครัวดังนี้
   
              "กำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง เรื่องการพูดคุยหรือปรับความเข้าใจกำลังเป็นไปในทางที่ดี ("ตุ๊ก" กลับมารับงานมากขึ้น) อย่าเรียกว่ากลับมาเลย เพราะเขามีหน้าที่เป็นคุณแม่ต้องเลี้ยงลูกไป แต่พอดีว่าเป็นข่าวขึ้นมา คนเลยอยากเชิญไปออกงานเท่านั้นเอง กับเรื่องที่จะกลับมาเดินแบบคงไม่มี ตอนนี้ผมพูดได้ว่าความสัมพันธ์เหมือนเดิม อีกอย่างตุ๊กเป็นคนทุ่มเทในเรื่องของการเลี้ยงลูก 100 เปอร์เซ็นต์ ผมเชื่อว่าเขาเสียลสะเวลาในการเลี้ยงลูก ส่วนที่ว่าตุ๊กเขาบอกว่าเขาเป็นซิงเกิ้ลมัมได้ ผมไม่เคยได้ยิน ส่วนเรื่องที่เขาให้สัมภาษณ์น้ำตาคลอ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นข่าวที่คนให้ความสนใจ เป็นเรื่องของครอบครัว น้ำตาคลอเป็นธรรมดา" พิธีกรหนุ่มแจง ก่อนจะเสริมต่อว่าช่วงนี้ได้มีการพูดคุยปรับจูนกัน
   
              "เราใช้การพูดคุยกัน ตอนนี้สถานการณ์ครอบครัวไปในทางที่ดี พูดจริงๆ เรื่องนี้ในอินเทอร์เน็ตผมโดนเละมาก ถ้าผมให้สัมภาษณ์มากมีผลต่อครอบครัวผมกับลูกและกับตุ๊ก ทุกคนได้รับผลกระทบหมดเลย คนดูอาจจะสนุกกับการเสพข่าวหรือวิเคราะห์ข่าวกันไป แต่คนที่ผลกระทบมากที่สุดคือครอบครัวของผม การที่เราพูดเยอะกับสื่ออาจจะโดนวิพากวิจารณ์ได้เยอะ" บ๊วยเผย
   
              ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีคนเห็น "บ๊วย" จูบปากกับ "โม" ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยในเรื่องนี้พิธีกรชื่อดังโต้เสียงแข็งว่าคงไม่ทำย่างนั้น แต่ได้ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิจริง แต่ไม่ได้ไปกับ "โม"
   
              "ผมไปสุวรรณภูมิจริง แต่ไม่ได้ไปกับโม และไม่มีการจูบกันอย่างแน่นอน ส่วนในเรื่องที่ว่าเช่าห้องแถวตึกออลซีซั่นอยู่กับโมนั้น ผมว่าถ้ามีการพูดต่อยอดไปเรื่อยๆ จะมีการขุดคุ้ยเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าผมพูดปฏิเสธเยอะจะกลายเป็นแก้ตัว ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แต่ผมไม่อยากพูดมาก ผมยืนยันว่าไม่มีเรื่องเช่าห้อง ตอนนี้ผมกับตุ๊กยังอยู่บ้านเดียวกัน (แยกห้องนอน) ไม่จริง ส่วนเรื่องที่ผมตอบไม่เคลียร์ ผมเป็นนักแสดง ทำงานอยู่ในจุดนี้ อยากให้คิดว่าถ้าเกิดเป็นผมจะตอบอย่างไร" ตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและวิตกกังวล

ที่มา คมชัดลึก

12.10.54

น้องมิ้น สาววัย 16 ซิวตำแหน่งลุค ซูเปอร์โมเดลฯประชันต่อญี่ปุ่น



"น้องมิ้น''สาววัย 16 ซิวตำแหน่งลุค ซูเปอร์โมเดลฯประชันต่อญี่ปุ่น

    ผ่านไปแบบยิ่งใหญ่สำหรับการประกวดนางแบบ The Look SuperModel Search 2011 ซึ่งเป็นการจัดโดย บริษัท ERM Marketing ประเทศไทย จำกัด เพื่อค้นหานางแบบตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประกวด The SuperModel Asian 2011 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนพฤศจิกายน 2554 นี้ โดยร่วมกับ Chic Channel ทางช่อง True Visions 68 และนิตยสารเปรียว ในการจัดการประกวดในครั้งนี้ และมีนางแบบผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 12 คน ร่วมชิงชัยสุดยอดนางแบบในตำแหน่ง The Look SuperModel Search 2011 จากผู้เข้าร่วมสมัครกว่า 100 คน ทั่วประเทศ เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม ณ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน ที่ผ่านมา

   
    บรรยากาศภายในงานคลาคล่ำไปด้วยผู้คนในวงการแฟชั่นและวงการบันเทิง อาทิ ''ใหญ่'' อมาตย์ นิมิตภาคย์, ''ลูกหมี'' รัศมี ทองสิริไพรศรี, ''ฮาน่า'' ทัศนาวลัย จักรพงษ์, ''ชาม'' ไอยวริญท์ โอสถานนท์, ''กวาง'' ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม, ''ปุ๊กลุก'' ฝนทิพย์ วัชรตระกูล, ''ฟ้า'' ชัญษร สาครจันทร์ เป็นต้น
   
    การประกวดเริ่มต้นเมื่อเวลา 1 ทุ่มครึ่ง เหล่าผู้เข้าประกวดออกมาเดินประกวดทั้งในชุดชั้นในสุดเซ็กซี่และชุดว่ายน้ำ จาก Triumph ต่อมาชุดราตรีจาก ห้องเสื้อโคชิลี่ โดยสาวงามทั้ง 12 คน ต่างเดินโพสท่านางแบบไม่แพ้มืออาชีพประชันกันแบบเต็มที่ ก่อนที่จะประกาศผลรางวัลต่างๆ
    รางวัลชนะเลิศ The Look SuperModel Search 2011 ได้แก่หมายเลข 1 ''มิ้น'' ภรภัทรา ทวีพันธุรัตน์ อายุ 16 ปี ส่วนสูง 176 ซม. กำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กรุงเทพมหานคร ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ถ้วยรางวัล และเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมประกวด The Super Model 2011 Asia Contest ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมสัญญานางแบบกับนิตยสารเปรียว 1 ปี
   
    รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 หมายเลข 8 ''ใบเฟิร์น'' อนัญญา มงคลไทย อายุ 22 ปี ส่วนสูง 176 ซม. กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท ถ้วยรางวัล และสัญญานางแบบกับนิตยสารเปรียว 1 ปี
   
    รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 หมายเลข 4 ''บิว'' ราตรีเฉลิม เดชบุญญาภิชาติ อายุ 23 ปี ส่วนสูง 176 ซม. จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท ถ้วยรางวัล และสัญญานางแบบกับนิตยสารเปรียว 1 ปี
   
    ทั้งนี้สำหรับผู้ชนะจะได้รับโอกาสในการเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปชิงตำแหน่งสุดยอดนางแบบเอเชียในการประกวด The Super Model 2011 Asia Contest 2011 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และทั้ง 3 อันดับยังจะได้รับโอกาสในการก้าวสู่วงการนางแบบแถวหน้าของเมืองไทยอีกด้วย

ที่มา สยามดารา

วิลลี่ ชมเมียเลี้ยงลูกเก่ง เป็นป๋าดัน น้องวิน ออกช่องสาระแน



วิลลี่ ชมเมียเลี้ยงลูกเก่ง เป็นป๋าดัน น้องวิน ออกช่องสาระแน

คุณ พ่อมือใหม่ วิลลี่ แมคอินทอช อัพเดทพัฒนาการของลูกชายสุดเลิฟน้อง วิน ธาดาฤทธิ์ ว่าตอนนี้อายุจะเข้า7สัปดาห์แล้ว ชมภรรยา เยลหลี  เลี้ยงลูกเก่ง น้ำหนักเพิ่มเป็นเท่าเตรียม บอกตอนนี้เป็นป๋าดันให้ลูกชายนำคลิปวีดีโอออกช่องสาระแนโวกระแสดีกว่าช่วง หอยแอโรบิคเยอะ ปลื้มคนชมเพียบ

ถามข่าวลูกชายน้องวินตอนนี้เป็นยังไง บ้าง ตอนนี้น้องวินอายุ6สัปดาห์จะขึ้น7 สัปดาห์แล้วครับน้ำหนักก็ขึ้นมาเท่าตัวแล้วครับ ก็ดีครับเยลหลีเลี้ยงได้เก่งมาก น้องวินก็เลี้ยงง่ายกินแล้วก็นอน ปัจจุบันสิ่งที่ถ่ายออกมาเริ่มมีกลิ่นแล้วครับจากแรกๆถ่ายออกมาหอมตอนนี้ เริ่มมาแล้ว(หัวเราะ)

ช่วยภรรยาทำอะไรบ้าง ก็มีเปลี่ยนเวรกันบ้างครับ บางทีช่วง3ทุ่มถึงเที่ยงคืนก็เป็นของวิลลี่ เยลหลีเขาจะปั้มนมไว้ในขวดแล้วผมก็เลี้ยงลูกเปลี่ยนผ้าอ้อม ล้างก้นและก็ได้อาบน้ำให้แล้ว2ครั้ง

เห็นบอกว่าตอนนี้น้องวินดังมาก เอาออกรายการบ่อย ป๋าดันอ่ะ ดันง่าย ๆ และมีช่วงของวินเขาในช่องสาระแนด้วยช่วงวินเอกมัยจะนำเสนอทุกสัปดาห์ ก็เป็นภาพที่ผมถ่ายวีดีโอไว้แล้วเอามาออกครับ (น้องมีแฟนครับหรือยัง) ตอนนี้ยังไม่ได้ทำ Facebook ของวินนะครับ เดี๋ยวจะมี Facebook ก็เข้าไปกด like กันได้ ซึ่งเรตติ้งตอนนี้เรียกว่าแซงหอยแอโรบิคไปแล้ว

ตอนนี้มี แววเป็นพระเอกหรือนายแบบมากกว่ากัน ผมขอให้คอแข็งก่อน ถ้าคอแข็งเมื่อไหร่ก็ตัดสิ้นใจได้ว่าจะเป็นพระเอกหรือนายแบบหรือนักกีฬา เพราะตอนนี้ยังเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาอยู่ยังไม่กว่าตัดสินใจให้

ที่มา สนุกดอทคอม

โน้ตเชิญยิ้มแจกของอยุธยาถูกน้ำซัดช่วยทัน



โน้ตเชิญยิ้มแจกของอยุธยาถูกน้ำซัดช่วยทัน

เกิด เหตุระทึกขวัญ หลังจากทีมงานของเวิร์คพอยท์ นำทีมดารา และผู้สื่อข่าวเดินทางมาบริจาคของ ต.บางระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ มีรถโฟร์วีลของทีมงานเวิร์คพอยท์ ที่มีทีมงานพีอาร์ , โน้ตเชิญยิ้ม , บ๊อบ-บดินทร์ และริว จิตสัมผัส เกิดต้านกระแสน้ำไม่ไหว พัดไปตามความแรงของน้ำ ทำเอาคนที่อยู่ในรถต้องกระโดดหนีลงมาจากรถเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ไมมีใครได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย พอขึ้นฝั่งได้ โน้ต เชิญยิ้ม ได้เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกให้ฟัง ว่า "ตอนเกิดเหตุการณ์ผมก็นึกถึงในหลวง แล้วมีความรู้สึกว่ามีรถผ่านมาแล้วช่วยดันให้ตัวเองขึ้นมา ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองจะเอาชีวิตไม่รอดแล้ว แต่ตัวเองตั้งใจมาช่วยผู้ประสบภัยจริง ถึงรอดมาได้" ด้านหนุ่มบ๊อบ-บดินทร์ และริว จิตสัมผัส ก็เปิดเผยอีกว่า "ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องจดจำ ว่าการมาช่วยคนอื่นเราก็ต้องระมัดระวังด้วย เพราะตอนนี้ต้องบอกว่ากระแสน้ำแรงมากๆ ก็อยากจะบอกว่าถึงจะว่ายน้ำได้แต่ถ้าไม่มีชูชีพก็คงไม่รอดเหมือนกัน เพราะกระแสน้ำมันแรง เกินกว่าที่เราจะทานไหว มันเป็นคลื่นมาแบบต่อเนื่อง และการสำลักน้ำมันทำให้เราตายได้ขนาดผมเองมีชูชีพยังจะเอาชีวิตไม่รอดเลย แต่ผมก็ช่วยหลายๆคนขึ้นมาได้ก็โอเค แล้วตอนนั้นผมไม่รู้สึกอะไรแล้ว คิดอย่างเดียวคือต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ เห็นคนที่ไม่ไหวผมก็ต้องช่วยอย่างเดียว ส่วนผมจะไหวหรือไม่ไหวก็ต้องช่วยเขาให้รอดก่อนแล้วค่อยช่วยตัวเอง ตอนนี้ผมยังใจสั่นอยู่เลย แต่ยังไงก็เต็มที่ มาแล้วก็ต้องไปให้ถึง แต่อยากจะบอกว่าสำหรับคนที่อยากจะเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็อยากให้มากับ ทางการ อย่ามาเสี่ยงภัยแบบนี้"

ที่มา สนุกดอทคอม

10.10.54

มอส ขอลุ้นเพศลูกตอนคลอด

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'มอส'ขอลุ้นเพศลูกตอนคลอด
“มอ ส” ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ เผยอีก 2 สัปดาห์พาภรรยาสาว “เกม” ดวงพร ลือกิตินันท์ ไปอัลตาซาวนด์ แต่ไม่ขอเข้าไปดู เผยอยากรอลุ้นเพศลูกตอนคลอด

           ใกล้จะได้เป็นคุณพ่อแล้วสำหรับนักแสดงหนุ่ม “มอส” ปฏิภาณ ที่ภรรยาสาว “เกม” ดวงพร ตั้งท้องได้ 4 เดือนกว่า ล่าสุดหนุ่มมอสได้อัพเดทเรื่องราวของลูกคนแรกในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “เรวัตพุทธินันทน์ น้องร้องเพลพี่ 15 ปี ที่คิดถึง” ณ ชั้น 21 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส ดังนี้

          “ตอนนี้เกมท้องได้ 4 เดือนกว่าแล้ว เดือนที่ 5 จะไปอัลตราซาวนด์ดูเพศของลูก คือผมไปด้วย แต่จะให้เกมเขารู้คนเดียว แต่ผมจะไม่รู้ เอาจริงๆ ความรู้สึกผมเน้นไปที่ลูกชาย อยากจะรู้เมื่อคลอดจริงๆ ดีกว่า ผมลุ้นไง เพราะบางทีอัลตราซาวนด์อาจจะพลาดได้ แต่ถ้าคลอดแล้วคงไม่พลาด (ถ้าเกมหลุดปากบอก) คิดว่าเขาคงต้องหลุดอยู่แล้วแหละ เพราะเพื่อนๆ เยอะแยะไปหมด (หัวเราะ)" พระเอกชื่อดังบอก พร้อมเผยว่าตั้งใจเลี้ยงลูก

          "ผมบอกเกมไว้ว่ายังไงก็ต้องเลี้ยงเอง แต่คิดว่าคงจะมีคนช่วยเลี้ยง เพราะเขาอาจต้องพักงานช่วงที่คลอดสัก 1-2 เดือน (เป็นพ่อชีวิตเปลี่ยน) ความจริงผมอยากจะเปลี่ยนอยู่แล้วนะ (หัวเราะ) คิดเล่นๆ ไปถึงตอนลูกอายุ 3 ขวบแล้ว เพราะตอนนั้นคงจะสนุกมาก แต่ตอนนี้ยังรู้สึกเฉยๆ ปกติอยู่ แต่ถ้าสัก 7-8 เดือน คงมีอะไรที่เพิ่มมากขึ้น เวลาที่พูดกับลูกในท้อง พอเรียกเขาว่าลูก เรายังรู้สึกเขินๆ อยู่เลย

          ถามว่าตอนนี้ดูแลอะไรเป็นพิเศษมั้ย ผมพยายามให้ทุกมื้อเย็นของเขากินอาหารที่ไม่มีไขมันและเขากินปลา เพราะถ้ากินอาหารที่ไขมันเยอะ  เวลานอนเขาจะลำบาก  เพราะถ้าท้องใหญ่เกินไปจะกดทับกระเพาะอาหาร  ทำให้มีกดไหลย้อนขึ้นมา  เดี๋ยวจะอันตราย ตอนนี้น้ำหนักเขาเพิ่มขึ้นมา 1 กิโลครึ่ง ไม่เยอะมาก เพราะคุณหมอกำหนดให้น้ำหนักขึ้น 7-12 กก. ผมบอกเขาว่าไม่ต้องทานเยอะ เดี๋ยวพอคลอดแล้วจะอ้วน (หัวเราะ)" มอสทิ้งท้าย

ที่มา คมชัดลึก

เลิฟซีน วี แลกลมหายใจกลางน้ำ

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


เลิฟซีน'วี'แลกลมหายใจกลางน้ำ
เลิฟซีน'วี'แลกลมหายใจกลางน้ำ'นุ่น'ไม่มั่นใจขอใช้ตัวช่วย :ตะลุยตะลอนกอง

          ลงจอเรียกเรตติ้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชมกันไปแล้ว สำหรับละครแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ เรื่อง "เส้นตาย...สลายโสด" นำแสดงโดย "วี" วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ กับนางเอกสาวสวย "นุ่น" วรนุช ภิรมย์ภักดี และนักแสดงอีกมากมาย เป็นละครที่มีทั้งฉากโรแมนติก กุ๊กกิ๊ก คู่กัด และเลิฟซีนให้ได้ลุ้นได้หัวเราะกันทั้งเรื่องโดยเฉพาะฉากนี้ที่ออกแนวทะเลาะ แต่จบที่เลิฟซีน
   
              เป็นฉากที่ฟ้า ("นุ่น" วรนุช) โดนใส่ร้ายว่าใช้คัตเตอร์กรีดทำลายรูปของเจ้าของงาน ทั้งที่เธอไม่ได้ทำ แต่ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจได้ยาก เพราะคัตเตอร์อยู่ในมือฟ้า ฟ้าโมโหโกรธและเครียดวิ่งออกไป ดิน ("วี" วีรภาพ) เป็นห่วงวิ่งตามออกมา และใช้วิธีอุ้มฟ้าโยนลงสระเพื่อให้อารมณ์เย็นลง แต่ฟ้าแน่นิ่งลอยอยู่ในน้ำจนดินตกใจกระโดดลงไปช่วยฟ้า จนเจอจังหวะที่ใกล้ชิดแลกลมหายใจกันและกันกลางน้ำ
   
              ฉากนี้ปักหลักถ่ายทำกันที่สระว่ายน้ำย่านเหม่งจ๋าย วีและนุ่นเตรียมตัวพร้อมลงน้ำ เรื่องเลิฟซีนหน้าชิดจมูกชนแลกลมหายใจกันฉากนี้ก็แค่เบาๆ แต่ด้วยระดับความลึกของน้ำในสระที่นุ่นจะถูกวีโยนลงไปนั้นต่างหากที่นุ่น หวั่นใจและไม่มั่นใจ เพราะว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งแรง เลยขอให้ทีมงานเตรียมห่วงยางเป็นตัวช่วยไว้ให้เธอด้วย พร้อมนัดแนะทีมงานว่าเมื่อเธอตกลงไปในน้ำปุ๊บ ให้ทีมงานโยนห่วงยางลงไปให้เธอเกาะทันที
   
              พอถึงคิวถ่ายทำจริงวีก็ซ้อมอุ้มซ้อมเหวี่ยงนุ่นโยนลงสระกันให้เป๊ะ เพราะโยนได้ครั้งเดียวก่อนเปียก และลงไปถ่ายทำในสระกันต่อ วีโยนได้เป๊ะเทกเดียวผ่าน นุ่นก็คว้าห่วงยางได้เป๊ะเหมือนกันแล้วให้ทีมงานลากเข้าขอบสระและวีรภาพก็ กระโดดตามลงมาอีกคน ช่วงเลิฟซีนเบาๆ ผู้กำกับ "หนึ่ง" ชัชวาล ศาสวัตกลูน ย้ายมาถ่ายทำตรงกลางสระที่น้ำตื้นกว่า และนุ่นสามารถยืนถึงเพื่อความมั่นใจเวลาเข้าฉากเลิฟซีน ซึ่งการถ่ายทำเลิฟซีนทั้งวีและนุ่นเล่นได้ไหลลื่น
   
              ติดตามชมความโรแมนติก น่ารัก ของละคร “เส้นตาย...สลายโสด” ฉากนี้ได้ในวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ หลังข่าว ช่อง7

ที่มา คมชัดลึก

จอย ยันไม่รู้สึกอะไรภาพหลุด น็อต

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'จอย'ยันไม่รู้สึกอะไรภาพหลุด'น็อต'
"จอ ย- รินลณี ศรีเพ็ญ" ลั่นไม่รู้สึกอะไรกับภาพหลุด "น็อต- วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์" สวีท "ซาร่า เล็กจ์" ย้ำไม่ซีเรียส และไม่คิดถาม ยันความสัมพันธ์ยังเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ฟุ้งไม่คิดเรื่องแต่งงาน เปรยเป็นโสดได้ถึงอายุ 50-60

           คลุมเครือเรื่องความสัมพันธ์มานานสำหรับ "จอย- รินลณี" กับ "น็อต-วรฤทธิ์" ล่าสุดมีภาพหลุดหนุ่มน็อตกับสาว "ซาร่า" ออกมา เจอตัวสาวจอยในงานเปิดตัว "Slim Concept" จอยเผยดังนี้
   
              "จอยไม่รู้เรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นภาพหลุดหรือข่าว ไม่รู้จริงๆ และไม่ได้ถามด้วย (โทรเคลียร์) ไม่ได้รู้สึกว่าต้องโทรไปเคลียร์เลย เพราะเราไม่รู้ว่าจะถามเพื่ออะไร เขามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ และจอยเป็นคนไม่ชอบตามจิก ถามว่ามั่นใจในตัวเขาแค่ไหน จอยคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมั่นใจ ว่าจริงหรือไม่จริง เขามีอิสระในการจะทำอะไรก็ได้ (เขาบอกว่ามองเราคนเดียว) ก็ไม่รู้สึกยังไง โอเคนะ ถ้าพูดถึงความเป็นคนดี จอยเชื่อว่าเขาเป็นคนดี เพราะเรารู้จักกันมานานมาก เป็นเพื่อนกันมาก่อน ถามว่าเพราะเป็นเพื่อนเลยทำให้พัฒนายากมั้ย ไม่เกี่ยวนะ เรื่อยๆ มากกว่า ความจริงถ้าจอยจะคบใครสักคนต้องเริ่มจากความเป็นเพื่อนก่อน ไม่ใช่เจอกันแล้วมาจีบเลย จอยรู้สึกว่าประหลาด (ถ้าเขาไป เราจะเสียใจไหม) ไม่หรอก และไม่กลัวด้วย เพราะเรามีความรู้สึกว่า เราสามารถอยู่คนเดียวแบบนี้ไปจนถึงอายุ 50-60 สุดท้ายอาจจะขึ้นคานก็ได้ แต่เราแฮปปี้ ในแบบของเรา ดูไปเรื่อยๆ  (น็อตบอกดูเราคนเดียว) จอยก็ไม่ได้มีใครนะ" จอยกล่าว
   
              ถามต่อว่างานนี้ มีน็อต มาเชียร์ด้วย แต่ทั้งคู่กลับไม่ยอมให้สัมภาษณ์คู่กัน ทั้งนี้จอยเผยว่าน็อตไม่ได้มาเชียร์ และไม่มีความจำเป็นต้องสัมภาษณ์คู่กัน
   
              "ไม่ได้มาเชียร์ พอดีลูกค้าเรียก และมีมาหลายคน พี่แนน (ชลิตา เฟื่องอารมย์) ก็มา ความจริงต้องบอกว่าลูกค้าเชิญมาหลายคน (เขินมั้ยน็อตนั่งดู) พูดจริงๆ ว่าไม่เห็นเลยนะ ส่วนที่เขาชมว่าเราสวย จอยไม่รู้ว่าเขาเห็นด้วยเหรอ (ไม่ให้สัมภาษณ์คู่) ไม่เคยให้สัมภาษณ์คู่กันอยู่แล้วนะ และเป็นเรื่องของงาน ต่างคนต่างสัมภาษณ์ เรายืนยันสถานะเดิม (เมื่อไหร่จะใจอ่อน) ตอบไม่ได้เหมือนกัน ถ้าชัดเจนเมื่อไหร่ ค่อยแจ้งให้ทราบ ความจริงจอยเป็นคนที่ไม่อยากมีแฟน หรือแต่งงาน ไม่ได้เป็นคนที่อยากมีครอบครัว ยังไม่คิดอยากจะเปลี่ยนสถานะของตัวเอง (ไม่กลัวเขาไม่รอ) ไม่เป็นไรเลย เพราะเรารู้สึกว่ามุกคนมีอิสระ ที่จะเจอคนที่ใช่ เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม สบายมาก" จอยกล่าวปิดท้าย

ที่มา คมชัดลึก

9.10.54

นุ่น ปล่อยโฮกลางเอ็มวีเพลง รักคงยังไม่พอ

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'นุ่น'ปล่อยโฮกลางเอ็มวีเพลง'รักคงยังไม่พอ'
เอ็มวีเด็ด : 'ปาน' บิวล์ 'นุ่น' ปล่อยโฮกลางเอ็มวีเพลง 'รักคงยังไม่พอ'

          ปล่อยเพลงแต่ละครั้งนักร้องสาว “ปาน" ธนพร แวกประยูร ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ล่าสุดกับเพลง “รักคงยังไม่พอ” ที่มีกลิ่นไอซาวนด์สไตล์แจ๊ส สะดุดหูจนติดลมบน และได้มีทำเอ็มวีแบบแสบซึ้งมากระตุ้นอารมณ์กันอีกด้วย

          โดยเอ็มวีตัวนี้ได้นักแสดงสาวมากความสามารถ “นุ่น" ศิรพันธ์ วัฒนจินดา มาถ่ายทอดอารมณ์ พร้อมทั้งยังคว้ากีตาร์ขึ้นมาแจมข้างๆ ประกบกับ “ปาน” อีกด้วย และเมื่อหมดคิวแค่เส้นร้อง แต่ “ปาน” ไม่ยอมทิ้งกองถ่ายไปไหนยังคงอยู่ให้กำลังใจพระนางที่มาร่วมในเพลงนี้อย่าง “นุ่น" และ “แก๊ป" ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล

          ซึ่งเรื่องราวจะเป็นความรัก ที่มีเพียงแค่ “รักคงยังไม่พอ” ของหญิงสาวธรรมดาๆ ที่ทำมาหากินเลี้ยงชีพด้วยการเล่นดนตรีกลางคืน พบรักกับหนุ่มทายาทเศรษฐี แต่กลับถูกม่านประเพณีและความต่างของฐานะมาเป็นกำแพงขวางกั้น

          ทั้งๆ ที่กำลังจะให้กำเนิดลูกน้อยขึ้นมา ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ติดตามมิวสิกวิดีโอตัวนี้ได้ทางรายการต่างๆ ในเครือ อาร์เอสฯ พร้อมกันได้แล้ว หรือติดตามชมทาง www.pleng.com

ที่มา คมชัดลึก

ไทเดินเล่น ท้าดวล พาราด็อกซ์ แทททูคัลเลอร์

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'ไทเดินเล่น'ท้าดวล'พาราด็อกซ์-แทททูคัลเลอร์'
มาเยี่ยมมาเยือน : วงน้องใหม่ 'ไทเดินเล่น' ท้าดวล 'พาราด็อกซ์-แทททูคัลเลอร์'

          เป็นวงน้องใหม่ ที่มีความกล้าบ้าบิ่นเป็นอาวุธ สำหรับวง "ไทเดินเล่น" วงเรกเก้สการ์น้องใหม่ ภายใต้สังกัด เฮงโครต ได้ยกพลมาบุกที่กองบัญชาการ "คม ชัด ลึก" เพื่อโปรโมทงานคอนเสิร์ต "ควิกแสบซ่าส์ มันส์เข้าเส้น ตอน มันส์ปิดเทอม...น่ารักอ่ะ" ที่พวกเขาจะไปประชันกับศิลปินสุดฮิตอย่าง "แทททูคัลเลอร์ พาราด็อกซ์ แบล็คเฮด" และวง "มาเจนต้า" โดยคอนเสิร์ตจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

          ซึ่งหนุ่มๆ วงไทเดินเล่น ประกอบด้วยสมาชิก "วู้ด" อดิศักดิ์ แสนรัก "โกอิ้ง" กวี วังจันทร์ "ปอง" กลัสลวิภาค "เอิ้น" กันต์ศม พงษ์เจริญ "ยู" อนุสรณ์ แสนรัก "ต่อ" ธนกฤต เอี่ยมเสริม "ป๋าปืน" ภากร ชื่นหทัย "จิ๊บ" อิศรา มานะ และ "ตาต้า" สุรเดช จีนนะ

พูดถึงว่า "ไทเดินเล่น" มาร่วมคอนเสิร์ตนี้ได้อย่างไร

          วู้ด "พวกเราเคยร่วมงานกับทางควิกตอนที่ทำฟุตวอล แล้วไปเดินสายตามต่างจังหวัด และมาเล่นในงานโครตอินดี้ ทางงานเห็นพวกเราเลยติดต่อมาทางดีเจพล่ากุ้ง (วรชาติ ธรรมวิจินต์) ที่จะมาร่วมคอนเสิร์ตนี้ด้วยในนามวง มาเจนต้า ด้วย พวกเรารู้จักกับทางดีเจพล่ากุ้งอยู่แล้ว พอได้รับการติดต่อให้มาร่วมคอนเสิร์ตนี้กับทางศิลปินที่เป็นไอดอลของพวกเรา ทั้ง พาราด็อกซ์ แบล็คเฮด ฯลฯ พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจมาก"

ความพิเศษที่แฟนๆ จะได้เห็นจากวง "ไทเดินเล่น" ในคอนเสิร์ตนี้

          ปอง "อาจเพราะว่าวงเรามีความแสบซ่า ตรงกับคอนเซ็ปของควิกแซบพอดีเลยได้โอกาสมาโชว์ในงานนี้ เพราะฉะนั้นความพิเศษของวงเราที่จะได้เห็นในคอนเสิร์ตนี้คือความแสบซ่า กล้าดีเดือดในแนวเพลงแบบเร้กเก้ที่รับรองว่าไม่มีทางได้เห็นที่ไหนแน่นอน"

ที่มา คมชัดลึก

พีช รับบทหนักใน top secretวัยรุ่นพันล้าน


(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'พีช'รับบทหนักใน'top secretวัยรุ่นพันล้าน'
ตะลุยตะลอนกอง : 'พีช' รับบททั้งเหนื่อยและหนักใน 'top secret วัยรุ่นพันล้าน'

          ใกล้เข้าโรงภาพยนตร์เต็มทีแล้วสำหรับ “top secret วัยรุ่นพันล้าน” หนังวัยรุ่นรสชาติใหม่ จากค่าย จีทีเอช ของ ผู้กำกับ "ย้ง" ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่ได้พระเอกสุดฮอต "พีช" พชร จิราธิวัฒน์ พลิกคาแร็กเตอร์ มารับบทเป็น ต๊อบ ร่วมด้วย เปี๊ยก โปสเตอร์ และนางเอกใหม่ "มุกไหม" วลันลักษณ์ คุ้มสุวรรณ

          เป็นเรื่องราวของ "ต๊อบ" อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เจ้าของธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย วัยรุ่นไทยที่พลิกชีวิตจากเด็กติดเกมส์ออนไลน์ เด็กมัธยมปลายที่เคยถูกครูฝ่ายปกครองค่อนขอดว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไรกิน จนกลายมาเป็นวัยรุ่นพันล้านในวัยรุ่น

          แหม...แค่ประเดิมฉากแรกหนุ่มพีชก็ต้องรับหนักซะแล้น เพราะต้องแบกกระสอบเกาลัด อีตอนแรกก็แอ็กติ้งท่าทางว่าแบกกระสอบเปล่าแต่ถ่ายแล้วกลับอารมณ์ งานนี้หนุ่มพีชเลยแบกกระสอบจริง หนักจริงอะไรจริง กว่าจะผ่านก็เล่นเอาหนุ่มพีชหอบแฮกๆ เพราะนอกจากต้องแบกกระสอบเกาลัดแล้ว ยังต้องวิ่งไปวิ่งมา แหม...กว่าจะผ่านไปได้ เล่นเอาพระเอกของเราถึงกับบ่นอุบไม่ได้ว่าเหนื่อยมาก...

          “ฉากนี้โหดมากครับ แต่มันสุดยอดมากเพราะตอนที่แบกกระสอบขึ้นบ่า เรารู้เลยว่าชีวิตคนเรามันไม่ง่ายเลย ความหนักและเหนื่อยของชีวิตต๊อบในหนัง มันเริ่มพร้อมกับชีวิตของผมที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ทุกเรื่องราวในชีวิตของต๊อบที่ผมต้องสวมบทบาท มันทำให้ผมเรียนรู้ชีวิตทางลัดของคนคนหนึ่งผ่านตัวละครหนังเรื่องนี้ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังดีๆ เรื่องนี้ อย่างน้อยผมก็รู้ว่า เวลาที่เราเหนื่อยหรือท้อ เราต้องสู้ต่อไปแล้วความสำเร็จจะรออยู่ข้างหน้าครับ”พีช กล่าว

          อยากรู้ว่ากว่าจะมีเงินพันล้านนั้นเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ติดตามได้ 20 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ ...นะจ๊ะ

------------------------------

(ตะลุยตะลอนกอง : 'พีช' รับบททั้งเหนื่อยและหนักใน 'top secret วัยรุ่นพันล้าน')

ที่มา คมชัดลึก

8.10.54

แพตตี้ลั่นรักแดนไม่สั่นคลอน

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


แพตตี้ลั่นรักแดนไม่สั่นคลอน
สาว 'แพตตี้' แจง ยังไม่เห็นภาพหลุด 'แดน' ควงสาวอื่น ยัน เชื่อใจฝ่ายชาย ลั่น รักไม่สั่นคลอนแน่

         สาวน่ารักคนนี้ ช่วงที่ผ่านมาหายหน้าไปจากวงการสักระยะ ล่าสุด สาว แพทตี้ อังศุมาลิน ได้มาร่วมแสดงภาพยนต์เรื่อง "ส.ค.ส สวีทตี้" และ "วาเลนไทน์ สวีทตี้" ประกบคู่กับ หนุ่มเป้ อารักษ์ สาวแพทตี้ ได้กล่าวในงานเก็บภาพภาพยนตร์เรื่อง "ส.ค.ส สวีทตี้" และ "วาเลนไทน์ สวีทตี้" ว่า ตนดีใจที่ได้ร่วมงานกับพี่ยอร์ช ตอนแรกรับว่า มีเกร็งบ้าง แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ส่วนหนุ่มเป้ สาวแพทตี้ คอนเฟิร์มว่า หนุ่มเป้ เป็นคนน่ารัก ร่วมงานกันได้ไม่มีปัญหาอะไร

         ด้าน หนุ่มแดน ที่เจ้าตัวมีโอกาสร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องเดียวกันกับ สาวแพทตี้ เผยว่า ช่วงแรกมีเขินบ้าง ไม่รู้จะทำตัวยังไง แต่ตอนนี้โอเคแล้ว

         นอกจากนี้ สาวแพทตี้ ยังเผยเกี่ยวกับภาพคู่ หนุ่มแดนกับสาวนิรนามด้วยว่า ยังไม่ได้เห็นภาพและตนไม่ได้คิดอะไร อาจจะมีถามบ้าง แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเชื่อใจว่า พี่เค้าคงไม่ได้อะไร เวลามีเรื่องอะไร พี่แดนจะเล่าให้ฟังหมดคะ เลยมั่นใจในตัวพี่เค้า

ที่มา คมชัดลึก

น็อต ฝันค้าง จอย ไม่อยากเป็นเจ้าสาว



น็อต ฝันค้าง จอย ไม่อยากเป็นเจ้าสาว

เห็น ทีพระเอกผิวหมึก น็อต วรฤทธิ์ ต้องนอนฝันค้างซะแล้ว! หลังเพื่อนสาวคนสนิท จอย รินลณี ออกปากเป็น เจ้าสาวกลัวฝน ไม่อยากแต่งงาน ปัด หวงความโสด เชื่อฝ่ายชายไม่ท้อไม่ยอมใจอ่อนเรียกแฟน บอกถ้าตลงเซย์เยสคบกันเป็นแฟนเมื่อไหร่ พร้อมประกาศให้ทราบกันทั่วหน้า!!!

        ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้เพื่อนชายคนสนิท น็อต วรฤทธิ์ มาให้กำลังใจในงานด้วยนางเอกสาว จอย รินลณี กล่าวว่า

        ''เหมือนไม่ได้ออกด้วยกันเลยนะ (หัวเราะ) อารมณ์เหมือนต่างคนต่างอยู่ เพราะจริงๆ จอยไม่ค่อยรับงานคู่กับใครอยู่แล้ว เขาก็มาเป็นแขกในงาน วันนี้ก็มีมาหลายคนค่ะ (เมื่อไหร่จะใจอ่อนสักที?) ก็ดูไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดชัดเจนยังไงเดี๋ยวบอกกัน (เขารอมานานแล้วนะ?) เรื่อยๆ มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว (เหมือนหวงความโสด?) จอยชอบอยู่แบบนี้นะ ไม่ได้มองว่าเป็นคนที่อยากแต่งงานและมีครอบครัวอยู่แล้ว''

         ''ถามว่าเมื่อไหร่จะยอมใจอ่อน มันตอบยากเหมือนกันเนอะ มันไม่สามารถตอบได้ว่าอีก 1 - 2 ปี เป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่าค่ะ (ยังไม่อยากสละโสด?) จอยเป็นคนไม่อยากแต่งงาน ไม่ได้มีความคิดว่าสักวันนึงจะต้องเป็นเจ้าสาว ต้องย้ายไปจากครอบครัวของเรา เรามองข้ามตรงนั้น (น็อตรอเก้อ?) ต้องดูกันไป มีเวลาอยู่เยอะ  ผู้ชายสบายใจอยู่แล้วค่ะ''

ที่มา สนุกดอทคอม

จั๊กจั่น ขอโทษเพ้นท์รูปแตงโมบนเล็บเท้า ยันไม่มีเจตนาร้าย



จั๊กจั่น ขอโทษเพ้นท์รูปแตงโมบนเล็บเท้า ยันไม่มีเจตนาร้าย

เจอ ข่าวเม้าท์ซดเกาเหลากับเพื่อนนางเอกร่วมช่อง ทำเอาสาว "จั๊กจั่น อคัมย์สิริ" ออกอาการไม่ค่อยสบายใจเพราะรายล่าสุดที่ตกเป็นข่าวเสี้ยมเกาเหลาดันเป็นน้อง สาวสุดซี้อย่าง "แตงโม ภัทรธิดา" เพราะเจ้าตัวดันไปเพ้นท์เล็บเท้ารูปแตงโมซะอย่างนั้น เลยทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันขึ้นมา ซึ่งมือที่ 3 พยายามจะเป่าหูให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดในเจตนาของสาวจั๊กจั่น ล่าสุดนางเอกสาวเสียงใสได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีข่าวที่เกิดว่า ตนน้อมรับผิดและขอโทษหากทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ เพราะตนไม่ได้มีเจตนาที่จะเหน็บแนมแต่อย่างใด และวอนสื่อหยุดเล่นข่าวแบบนี้เสียทีเพราะเกรงใจผู้ใหญ่

ข่าวเกาเหลากับแตงโม
"ข่าว นี้จั่นไม่ค่อยอยากพูดแล้วเพราะพูดกี่ทีก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไร จั่นยังยืนยันว่ายังมีความความรู้สึกดีๆให้น้องเหมือนเดิม ส่วนตัวแล้วจั่นเข้าวงการมาใกล้จะ 10 ปีแล้ว และไม่ใช่คนที่ชอบมีปัญหากับใคร โดยส่วนตัวแล้วจั่นเป็นคนที่กลัวการมีเรื่องเพราะรับมือกับเรื่องพวกนี้ไม่ เก่ง ยืนยันว่าจั่นก็ยังรักและเคารพพี่ๆในวงการไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง"

ตอนที่เราเพ้นท์เล็บเท้ารูปแตงโม จริงๆเป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรทำ
"ตอน ที่มีข่าวจั่นก็ตกใจ เพราะจั่นกับน้องค่อนข้างสนิทกัน แตงโมจะรู้ว่าจั่นเป็นคนที่ชอบอะไรกุ๊กกิ๊ก อย่างเรื่องการเพ้นท์ก็ทำมานานแล้ว ก็ได้มีการบีบีไปบอกน้องเขาว่าอย่าคิดมาก เห็นว่าเรื่องไม่มีอะไรยิ่งเราพูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต อยากให้เรื่องจบมากกว่า ก็ฝากพี่ๆเลยแล้วกันว่าขอฝากบอกไปถึงน้องเขา ถ้าการที่จั่นเพ้นท์เล็บแล้วทำให้เขาไม่สบายใจ จั่นก็ขอโทษแล้วกัน เรื่องมันจะได้จบ ยืนยันได้ว่าจั่นไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย"

แตงโมบอกว่าเชื่อใจเรา แค่คิดว่าคนใกล้ตัวเป็นคนเสี้ยม
"จั่น ว่ามันไม่มีบุคคลอื่นเข้ามา ไม่อยากให้ลากใครเข้ามา อย่างที่บอกจากเรื่องที่ไม่มีอะไรเลยจะยิ่งทำให้ไปกันใหญ่ การทำงานและการใช้ชีวิตของจั่น จั่นก็ตัดสินใจเอง เวลามีข่าวแบบนี่บ่อยๆเราก็เกรงใจช่อง ช่วงนี้เหตุการณ์บ้างเมืองไม่ปกติ อยากให้เอาเนื้อที่ข่าวไปเสนออย่างอื่นมากกว่า ก็ขอพูดเรื่องนี้ที่นี่ครั้งสุดท้ายแล้วกันคะ"

ตอนที่บวงสรวงละครเรื่อง "ขุนเดช" เราพูดเหมือนรู้ตัวคนเสี้ยม
"จั่นก็พูดไปแซวไปอย่างนั้นเองคะ ไม่ได้มีอะไร"

จากข่าวที่ออกมากลัวผู้ใหญ่เรียกเข้าไปคุยไหม
"ไม่ได้กลัวแต่เกรงใจมากกว่า"

ข่าวบางกระแสออกมาบอกว่าแตงโมสร้างข่าวเพื่อให้ได้งานอีเว้นท์
"ไม่ขอออกความเห็นเพราะจั่นไม่มีอะไรคะ ไม่อยากพูดอะไรแล้ว"

มีโอกาสได้เคลียร์กันส่วนตัวไหม
"พอรู้ว่าน้องเขาไม่สบายใจ จั่นก็บีบีไปหา"

ที่มา สนุกดอทคอม

7.10.54

สร้างพิพิธภัณฑ์ไพรวัลย์ ลูกเพชร

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


สร้างพิพิธภัณฑ์ไพรวัลย์ ลูกเพชร
เพชรบุรีจัดมหกรรมเพลงครบ 9 ปี สร้างพิพิธภัณฑ์ "ไพรวัลย์ ลูกเพชร"

           ชาวเพชรบุรีจัดคอนเสิร์ต ”มหกรรมเพลงไพรวัลย์” ระดม 23 นักร้องร้อง 35 บทเพลงอมตะของขุนพลเพลง ไพรวัลย์ ลูกเพชร รำลึก 9 ปีที่จากไป พร้อมระดมทุนตั้ง “พิพิธภัณฑ์ไพรวัลย์ ลูกเพชร” เตรียมบรรจุหลักสูตรไพรวัลย์ให้เด็กรุ่นหลังได้เรียนรู้
   
              เจนภพ จบกระบวนวรรณ หนึ่งในคณะทำงานเบื้องหลัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ”คม ชัด ลึก” ถึงการตจัดมหกรรมคอนเสิร์ตไพรวัลย์ ลูกเพชรว่า
   
              "ครบรอบ 9 ปีการเสียชีวิตของขุนพลเพลงลูกทุ่งไพรวัลย์ เราจะจัดงานเป็นครั้งแรกโดยจะเป็นมหกรรมคอนเสิร์ตที่เป็นเพลงที่ไพรวัลย์ ร้องไว้ อาทิ เพลงเบ้าหลอมดวงใจ, ใต้เงาโศก, มนต์รักลูกทุ่ง, ดาวบ้านนา, มะนาวไม่มีน้ำ, หนาวใจชายแดน, ไพรอำพราง เพชรบุรีแห่งความหลัง ไอ้หนุ่มตังเก รอยรักรอยมลทิน และมีเพลง "วิมานทอง" ที่แต่งโดยเก่ง บางเก่า เป็นนักจัดรายการท้องถิ่น เพลงนี้ พนมไพร ลูกเพชร จะเป็นผู้ร้อง ส่วนเพลง "คิดถึงไพรวัลย์" ผมแต่งขึ้นมาเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะซึ่งจะให้ สลักจิต ดวงจันทร์ เป็นผู้ขับร้อง นักร้องที่จะมาร่วมมีมากมาย กังวานไพร ลูกเพชร, รุ่งเพชร แหลมสิงห์, วิภารัตน์ เปรื่องสุวรรณ, พนมไพร ลูกเพชร, ละอองดาว-สกาวเดือน, สุริยา ฟ้าปทุม, สัญญา พรนารายณ์, สมพร เมืองลับแล, "เท่ห์" อุเทน พรหมมินทร์, รุ่ง สุริยา, พร ปิยะโรม และนักร้องใหม่ๆ อีกหลายคน"
   
              นอกจากคอนเสิร์ตแล้วยังมีกิจกรรมต่อเนื่องที่เพิ่มเติมเข้าไปด้วย โดยหวังให้เป็นความรู้ที่ยั่งยืนสืบไป
   
              “ผมอยากให้เกิดแหล่งเรียนรู้ที่ยืนยาวซึ่งก็คือการทำพิพิธภัณฑ์เรื่องราว ต่างๆ ของนักร้องเลือดเนื้อเชื้อไขของคนเพชรบุรี ให้คนเพชรรุ่นหลังๆ ได้รู้จักและศรัธาศิลปินของเขา การทำหุ่น บางคนก็ไม่รู้จัก บางคนก็มาขอหวยแค่นั้น ซึ่งพอได้คุยกับหน่วยงานท้องถิ่น กลุ่มธุรกิจในเพชรบุรีเองทุกคนเห็นด้วย ซึ่งผมได้ผลักดันสิ่งสำคัญขึ้นอีก 2 อย่างคือ อบต.บ้านขุนไกร ได้บรรจุให้พิพิธภัณฑ์ไพรวัลย์ ลูกเพชร อยู่ในแผนงานวัฒนธรรมของเขาอีกอันคือหลักสูตรไพรวัลย์ ที่จะใช้สอนเด็กรุ่นใหม่ของเพชรบุรีให้รู้จักไพรวัลย์อย่างถ่องแท้ จะได้เป็นมัคคุเทศก์น้อยคอยแนะนำเมื่อมีคนมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไพรวัลย์“
   
              สำหรับรูปแบบในมหกรรมเพลงที่จะจัดขึ้นในวันที่16 ตุลาคม ณ ที่วัดดอนผิงแดด อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรีครั้งนี้ รายได้มาจากการขายโต๊ะจีน โต๊ะละ 1,600 บาท (8 คน) หักค่าใช้จ่ายแล้วตั้งเป็นกองทุนไพรวัลย์ ดำเนินการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ โดยศิลปินนักร้องทุกคนช่วยกันเพื่อหาทุนมาทำมหกรรมเพลง โดยจะมีการแถลงข่าวในวันอังคารที่ 11 ตุลาคมนี้ ที่ ”บ้านศิลปิน“ ริมคลองบางหลวง กรุงเทพฯ เวลา 13.00 น.

ที่มา คมชัดลึก

นุ่น เมินคนมองอยู่กับ หลุยส์



'นุ่น'เมินคนมองอยู่กับ 'หลุยส์'
"นุ่น" รมิดา ประภาสโนบล แจงเวลาว่างชอบอยู่บ้านกับ หลุยส์ สก๊อตต์ แฟนหนุ่ม เมินคนมองอยู่ด้วยกัน ทำใจแฟนคลับยังแอนตี้ไม่เลิก โวแฟนหนุ่มไม่ว่าถ่ายปฏิทินหวิว

          ดูเหมือนเป็นคู่รักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคแฟนคลับเสียเหลือเกิน สำหรับ "นุ่น" รมิดา กับพระเอกหนุ่ม หลุยส์ สก๊อตต์  แถมล่าสุดยังเจอข่าวต่างๆ นานา อีกทั้งคนมองว่าคู่นี้อยู่ด้วยแล้ว  เมื่อเจอตัวสาวนุ่นเลยถามถึงประเด็นดังกล่าว นุ่นเผยดังนี้ 
   
              "ถ้านุ่นว่างจริงๆ จะอยู่กับเขาทั้งวัน  ก่อนหน้านี้เขาซ้อมคอนเสิร์ตแล้วก็ป่วย เพราะเป็นหวัด ให้น้ำเกลือมา 30 นาที ไม่ได้นอนโรงพยาบาล เพราะต้องมาซ้อมคอนเสิร์ตต่อ ถ้าเราว่างก็ไปกับเขา แต่นุ่นพยายามเว้นบ้าง ไม่ไปบ่อย ไม่อยากให้คนมองว่าเราไปคุ้ม (มีเวลาไปเที่ยวกันไหม) ไม่ค่อยชอบเที่ยว ถ้าคิดว่ามีเวลา 2-3 วัน หลุยส์ไม่ไปเลยนะ เขาต้องไป 5 วัน แต่ถ้าว่างจะอยู่บ้าน เลี้ยงหมา เลี้ยงกระรอก (ไม่มีเวลาเจอกัน มีระแวงไหม) มันมีอยู่แล้ว แต่เราจะแสดงออกแค่ไหน หลุยส์เขาติดเพื่อนอยู่แล้ว แต่เราผ่านอะไรด้วยกันเยอะ เชื่อใจกัน" นุ่นกล่าว
   
              ถามต่อ ว่าเพราะอยู่บ้านด้วยกันเวลาว่างๆ คนเลยมองว่าอยู่ด้วยกันแล้ว นักแสดงสาวกล่าว ว่าไม่ได้รู้สึกอะไร และคงไม่สามารถอธิบายให้ใครฟังเข้าใจได้หมด หรือแม้แต่แฟนคลับ
   
              "ถ้าครอบครัวนุ่น ครอบครัวเขาเข้าใจ คนรอบข้างเห็นเรามาตลอด รู้ว่าเราเป็นแบบไหน เราไม่เคยทำอะไรผิดศีลธรรม นุ่นก็แฮปปี้แล้ว ถ้านุ่นต้องมาเครียด มาอธิบายว่าหนูไม่อยู่ด้วยกันนะ มันเหนื่อย เอาแค่เราสบายใจ เขาสบายใจ (แฟนคลับยังแอนตี้อยู่ไหม) นุ่นงงเหมือนกัน ว่าเป็นแฟนคลับกลุ่มไหน ที่ไม่ชอบ เป็นเรื่องของเขา ถ้าไม่ชอบต้องปล่อย นุ่นโตแล้ว อายุจะ 30 แล้ว ถ้าเราไปวิ่งตามน้องๆ นุ่นก็เหนื่อย  แล้วนุ่นยังไม่เจอต่อว่าแรงๆ นะ นุ่นเล่นเฟซบุ๊ก ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาสอดแนมหรือเปล่า คงมีบ้างที่มาเป็นสปาย แต่ในเฟชบุ๊กเช็กได้เลย ว่าไม่มีรูปนุ่นกับหลุยส์คู่กันเลย" ดาราสาวแจกแจง พร้อมกับเสริมต่อ ว่าสำหรับการถ่ายปฏิทินกับน้ำมันเครื่อง ZIC 2012 นั้น แฟนหนุ่มไม่ว่าอะไร
   
              "เป็นทีมงานที่เคยทำงานด้วยกัน แต่นุ่นคุยกับทีมงานว่านุ่นจะไม่ถ่ายแบบหวือหวามาก ขอเป็นคาแรกเตอร์นุ่น ห้าวๆ เท่ๆ ถ่ายแล้วนุ่นให้หลุยส์ดู โดยยังไม่รีทัช แล้วก็ให้เขาดูที่มีนางแบบ 3 คน รวมนุ่นด้วย หลุยส์โอเค ไม่โป๊" นุ่นกล่าวสรุป

ที่มา คมชัดลึก

เวียร์ โต้สลักชื่อคู่ ใหม่ ใต้ฐานพระ

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'เวียร์'โต้สลักชื่อคู่'ใหม่'ใต้ฐานพระ
"เวีย ร์" ศุกลวัฒน์ คณารศ แจงข่าว "จุ๋ย" วรัทยา นิลคูหา เฝ้าไข้ข้างเตียง อ้างแค่ไปเยี่ยม ปฏิเสธข่าวสลักชื่อคู่ "ใหม่" ดาวิกา โฮร์เน่ ใต้ฐานพระสีวลี เผยมีชื่อคนอื่นที่มาทำบุญด้วย

          เป็นหนุ่มฮอต ที่ไม่เคยตกกระแสเลยก็ว่าได้ สำหรับ "เวียร์" ศุกลวัฒน์ ที่ล่าสุดก็มีข่าวกับสาวๆ เข้ามาพัวพันอีก โดยข่าวแรกเป็นข่าวที่มีคนเห็นนางเอกร่วมช่อง "จุ๋ย" วรัทยา นิลคูหา ไปเฝ้าไข้และคอยปฐมพยาบาล ให้แก่พระเอกหนุ่มยามป่วย จนหลายคนจับตามอง ว่าความสัมพันธ์ของคู่นี้ จะพัฒนาไปไกลเกินเพื่อนหรือไม่ และอีกข่าวเมื่อแฟนคลับของ "เวียร์-ใหม่" เอาภาพสลักชื่อของคู่นี้ใต้ฐานพระสีวลี ที่ "เวียร์-ใหม่" ไปทำบุญด้วยกัน ที่วัดซับหลุมปาวนาราม จังหวัดลพบุรี ออกมาให้ดู ทำให้แฟนๆ ที่ลุ้นกันอยู่เชื่อว่าจะลุ้นคู่นี้ขึ้น แต่พอสอบถามเรื่องทั้งหมดไปยังหนุ่ม "เวียร์" ก็ได้รับคำตอบดังนี้
   
              "เอาเรื่องของจุ๋ยก่อน คือวันนั้นผมป่วยไม่สบายเป็นไข้หวัดใหญ่และก็ทอมซิลอักเสบนอนอยู่ที่โรง พยาบาล 2 วัน แล้วบังเอิญว่าจุ๋ยเขาก็มาหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี แล้วคุณหมอบอกว่า ผมนอนป่วยอยู่ เขาเลยมาเยี่ยมแค่นั้นเอง ก็ไม่ได้มีอะไร คือมีเพื่อนๆ อีกหลายคนมาเยี่ยม เพื่อนสมัยพี่ๆ ที่ดูแล แค่นั้น ความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกันไม่ได้มีอะไร คือเราสองคนสนิทกัน เพราะทำงานด้วยกัน"พระเอกชื่อดังแจง ก่อนจะจะพูดถึงข่าวกับ "ใหม่" ดาวิกา ว่าเป็นความเข้าใจผิด
   
              "ส่วนเรื่องที่สลักชื่อที่ใต้ฐานะพระ จริงๆ ไม่อยากที่จะให้มาเป็นข่าว เพราะว่าเป็นการไปทำบุญกับวัด กับพระ และอีกอย่างมันเป็นความเข้าใจผิดกัน เพราะไม่ได้สลักชื่อกันแค่สองคน คือสลักชื่อ 5 ชื่อคือชื่อของเวียร์ ชื่อของน้องใหม่ ชื่อของพี่อีกคนหนึ่ง ที่ไปทำบุญด้วย ชื่อของแฟนคลับเวียร์ และชื่อของแฟนคลับน้องใหม่ แต่พอเวลามาเป็นข่าวก็หยิบเฉพาะชื่อเวียร์กับน้องใหม่มา แต่อย่างที่บอกว่าไม่มีอะไร กับน้องใหม่เป็นพี่น้องกัน และอีกอย่างคือสเป็คเวียร์ขอเป็นหมวยๆ ขาวๆ สูงๆ ซึ่งตอนนี้หายากแล้ว"เวียร์กล่าวพร้อมหัวเราะ
   
              ซึ่งพระเอกหนุ่ม ยังพูดถึงภาพกับสาวนิรนาม ที่ออกมาว่าเป็นเพียงลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้าน Cool house ของเขาเท่านั้น โดยเวียร์เผยว่าตอนนี้รู้สึกเหงาเหมือนกัน ที่ไม่มีคนมาเคียงข้างและอยากมีใครสักคน แต่เพราะงานที่รัดตัวทำให้ยังไม่มีใครที่เป็นคนพิเศษ

ที่มา คมชัดลึก

6.10.54

ละครดัง พาเพลงติดชาร์ต




'ละครดัง'พาเพลงติดชาร์ต
ละครส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการใช้ เพลงประกอบละคร ทำให้เพลงเหล่านั้นโด่งดังไม่แพ้ละคร จะเป็นเพลงไหนมาดูกัน

          หากเปิดทีวีดูละคร หลายคนคงเห็นว่า ตอนนี้ละครส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการใช้เพลงประกอบละคร ต่างคัดสรรเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ กินใจ ให้เข้ากับเนื้อหาละคร ละครบางเรื่องเปิดซิง โดยการใช้เพลงที่แต่งขึ้นใหม่ ขณะที่ละครบางเรื่องใช้เพลงเก่า แต่นำมาคัฟเวอร์ใหม่  หรือนำเพลงฮิตติดตลาดมาประกอบเพลงละคร  ส่งผลเพลงเหล่านั้นโด่งดัง ว่าแต่ว่าจะมีเพลงไหน ศิลปินคนไหนขับร้องกันบ้าง มาดูกันเลย
     
              กำลังดำเนินเรื่องน่ารักกุ๊กกิ๊ก สำหรับละคร "กลรักลวงใจ" ที่มีพระเอกหนุ่ม "เคน"ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ประกบคู่กันครั้งแรกกับ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แถมเพลงประกอบละครในเรื่องยังติดหูคนฟัง ไม่ว่าจะเป็นเพลง  "เก็บ" ของศิลปินชื่อดัง รูม 39 (Room39) รวมทั้งเพลง "เธอใช่มั้ย" ของนักร้องหนุ่ม "น๊อต"วรุตม์ พิทักษ์สรยุทธ และเพลง "สิ่งเดียวที่ฉันขอ" ที่ร้องโดย มาเรียม อัลคาลารี่  และ "เค้ก"อุทัย นิรัติกุลชัย บี 5 (B5) แห่งค่ายเลิฟอีส
   
              มาถึงละครสนุกสนาน ครบรสอย่าง "รอยมาร" ของค่ายทีวีซีน นำแสดงโดยนางเอกจอมแก่น "มาร์กี้" ราศรี บาเลนซิเอก้า กับพระเอกมาดกวน "บอย" ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์  ที่เวลานี้ครองใจคนดู รวมไปถึงเพลงประกอบละคร ยังเป็นเพลงซึ้งกินใจ อย่าง "คือเธอ" ร้องโดย "บอย" อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี (บอย พีซเมกเกอร์) แว่วๆ ว่าเพลงนี้ กำลังได้รับความนิยมจากคนฟัง และเพลง "อยู่ๆ ก็มาปรากฎตัวในหัวใจ" ของนักร้องเสียงใส  ลูกหว้า พิจิกา ที่ใช้ประกอบละครเรื่องนี้ ก็ครองใจผู้ฟังเช่นกัน
   
              แม้จะนำเพลง "แพ้ใจ" ของ ใหม่ เจริญปุระ มาคัฟเวอร์ใหม่ ร้องโดยศิลปินวง "เคลียร์" (KLEAR) ในละครเรื่อง "คู่แค้นแสนรัก " แต่เพลงเก่านักร้องใหม่ก็ดังไม่แพ้ละครเลยทีเดียว เพราะบรรดาคลื่นวิทยุต่างเปิดให้กระหึ่ม ! ส่งผลให้เพลงติดชาร์ตกันเลยทีเดียว แถมเพลง "แพ้ใจ"  เวอร์ชั่น "โปเตโต้"  ยังส่งผลให้เพลงนี้ดังเป็นพลุแตก ! 
   
              ละครบู๊  "ตะวันเดือด" จบไปแล้ว แต่ดูเหมือนเพลงประกอบละครอย่างเพลง "นาฬิกาตาย" ของนักร้องมาดเซอร์ ตูน บอดี้สแลม  ที่นางเอกสาว "ญาญ่า" อุรัสยา เสปอร์บันด์ ได้ขับร้องไว้ เพื่อใช้ประกอบละครเรื่องนี้ ยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ฟังเช่นกัน
   
              หากใครได้ดูละคร "เพลิงทระนง" ที่พระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ เล่นไว้ ยังส่งผลให้เพลง "เพียงในใจ" ที่ร้องโดยเจ้าพ่อเพลงประกอบละคร  "บอย"อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี (บอย พีซเมกเกอร์) ดังติดชาร์ตคลื่นวิทยุหลายๆ คลื่น รวมถึงเพลง "เพราะฉะนั้น"  ของวง ซีล (Zeal)  ที่ยอดคนฟังท่วมท้น ไม่แพ้เพลง  "เพียงในใจ" เลยทีเดียว
   
              มาถึงละครดัง  "เธอกับเขาและรักของเรา" ทางช่อง 7 ที่พระเอกหนุ่ม "เป้"อารักษ์ อมรศุภศิริ ประกบคู่กับ "แพนเค้ก" เขมนิจ จามิกรณ์  เมื่อละครดัง เพลงประกอบละครก็ต้องดังตาม โดยเฉพาะเพลง "ปฏิเสธไม่ได้ว่ารักเธอ"  ที่นักร้องสาว "แคล" แคลอรีน นีมะโยธิน ฟิตเจอร์ริ่ง กับ "แบงค์" วงแคลช
   
              ละคร "เมียแต่ง" เข้มข้น เพราะ "เบนซ์" พรชิตา ณ สงขลา กับ "ชมพู่" อารยา เอฮาร์เก็ต เฉือดเฉือนบทกันอย่างเมามัน เมื่อเป็นเรื่องเมียน้อย เมียหลวง  เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ทำให้มีเพลง "ผู้หญิงโง่ๆ ที่ยอมเธอง่ายๆ" ที่ร้องโดย  ปนัดดา เรืองวุฒิ เจ้าแม่เพลงแนวชิงรักหักสวาท มาแต่งเติมรสชาติละครให้มันยิ่งขึ้น

ที่มา คมชัดลึก

คุก50ปี! แพท พาวเวอร์แพท

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


คุก50ปี!'แพท พาวเวอร์แพท'
ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 50 ปี ปรับ 1 ล้านบาท แพท-พาวเวอร์แพท ลักลอบจำหน่ายยาอี ส่วนเพื่อนชาวฮ่องกง ลดโทษเหลือจำคุก 25 ปี 2 เดือน

        6 ต.ค.54 6 ต.ค.54  ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ ย.1952/2547 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายชุง คิง ฟุ อายุ 44 ปี ชาวฮ่องกง นายวรยศ บุญทองนุ่ม หรือ แพท อายุ 30 ปี อดีตนักร้องนำวงดนตรีขวัญใจวัยรุ่น พาวเวอร์แพท ค่ายแกรมมี่ และนางจารุวรรณ โชติเฉลิมศักดิ์ อายุ 41 ปี คู่รักนายวรยศ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันมี 3,4-เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน หรือยาอี เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย , มีกัญชาและมีคีตามีน หรือยาเค ไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2551

        โดยอัยการยื่นฟ้อง 28 ก.ค.47 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.47 เวลากลางคืน จำเลยที่ 1-2 ได้ร่วมกันมียาอี 2,989 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยที่ 2 มีกัญชาแห้ง 1 ถุง หนักประมาณ 5 กรัม และยาเค 4 ขวด ไว้ในครอบครอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามพิเศษ 191 วางแผนให้สายลับล่อซื้อยาอี จำนวน 1,000 เม็ด ราคา 1.5 แสนบาทจากจำเลยที่ 1 ที่ห้างฟู๊ดแลนด์ สาขารามคำแหง โดยจำเลยที่ 1 นำสายลับเดินทางไปรับของกลางที่ลานจอดรถ บนอาคารชุด บดินทร์สวีทโฮม ย่านวังทองหลาง ซึ่งจำเลยที่ 2 นำยาอี บรรจุใส่ถุงพลาสติกใส 10 ถุงๆ ละ 100 เม็ด รวม 1,000 เม็ด มามอบให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจึงแสดงตัวเข้าจับกุมจำเลยทั้งสอง หลังจับกุมจำเลยที่ 2 ได้รับสารภาพว่ายังมียาเสพติดอีกส่วนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในห้องพักเลขที่ 312 ของอาคารชุดดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบยาอี อีกจำนวน 1,900 เม็ด กัญชาบรรจุในถุงพลาสติกใส 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 5 กรัม และยาเค 4 ขวด พร้อมอุปกรณ์การเสพ และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.47 เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมจำเลยที่ 3 ได้ที่ จ.ตาก ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 รับสารภาพเฉพาะข้อหาจำหน่ายยาอี และลักลอบเข้าเมือง ส่วนจำเลยที่ 2 รับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา แต่จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหา

        ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตและปรับ 1 ล้านบาท จำเลยที่ 1 ฐานมียาอีในครอบครองเพื่อจำหน่าย , ให้จำคุกตลอดชีวิตและปรับ 1 ล้านบาท ฐานจำหน่ายยาอีโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้จำคุก 4 เดือน ฐานลักลอบเข้าเมือง จำเลยให้การรับสารภาพฐานจำหน่ายยาอี ฯ และลักลอบเข้าเมือง เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่งให้จำคุก 25 ปี และปรับ 500,000 บาท จำเลยที่ 1 ฐานจำหน่ายยาอี ฯ และให้จำคุก 2 เดือน ฐานลักลอบเข้าเมือง ฯ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิตและปรับ 1.5 ล้านบาท

        ส่วนจำเลยที่ 2 ให้จำคุกตลอดชีวิตและปรับ 1 ล้านบาท ฐานมียาอีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย , ให้จำคุกตลอดชีวิตและปรับ 1 ล้านบาท ฐานจำหน่ายยาอี ฯ , จำคุก 4 เดือน ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง และจำคุก 5 ปี ฐานมียาเคไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพมาโดยตลอด เห็นควรลดโทษกึ่งหนึ่ง ให้จำคุก 25 ปีและปรับ 500,000 บาท ฐานมียาอีในครอบครอง ฯ , จำคุก 25 ปีและปรับ 500,000 บาท ฐานจำหน่ายยาอี ฯ , จำคุก 2 เดือน ฐานมีกัญชา และจำคุก 2 ปี 6 เดือน ฐานมียาเค แต่เมื่อรวมโทษแล้ว คงให้จำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 50 ปี และปรับ 1 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 3 พิพากษายกฟ้อง และให้ริบของกลางทั้งหมด

        ต่อมาจำเลยที่ 1- 2 ยื่นฎีกา โดยจำเลยที่ 2 ขอให้ศาลฎีกาพิจารณาลงโทษสถานเบา ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า ในชั้นพิจารณาพยานหลักฐานโจทก์ในส่วนที่ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ฐานมี  3,4-เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน หรือยาอีไว้ในครอบครอง ฯ นั้น ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้เนื่องจากพยานบางปากให้การขัดกันในสาระสำคัญ ส่วนที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าการสอบสวนไม่ชอบนั้น ก็ไม่ได้ต่อสู้ในชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยในส่วนนี้ ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้นบางส่วน ศาลฎีกา จึงพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ฐานมียาอีในครอบครอง และให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 25 ปี 2 เดือนและปรับ 500,000 บาท ฐานจำหน่ายยาอี ฯ และความผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ

        ส่วนที่จำเลยที่ 2 ฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้น ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฯ กำหนดโทษให้จำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1 - 5 ล้านบาท เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละตลอดชีวิตและปรับกระทง 1 ล้านบาท จึงถือว่าเป็นโทษขั้นต่ำแล้ว ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยส่วนนี้ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาพิพากษายืน

ที่มา คมชัดลึก

นิชคุณ ฉายเดี่ยวรับงานในไทย




'นิชคุณ'ฉายเดี่ยวรับงานในไทย
ปลีกเวลาจากตารางงานรัดตัวกับเพื่อนๆ ร่วมวง ทูพีเอ็ม ที่เกาหลี ขอบินลัดฟ้าฉายเดี่ยวกลับมาเมืองไทย ให้แฟนคลับฮอทเททชาวไทยหายคิดถึง

          นิชคุณ 2PM รับงานพรีเซ็นเตอร์เดี่ยวให้กับกล้องดิจิตอลยี่ห้อดัง แถมยังมีเซอร์ไพรส์โชว์ร้องเพลงโกยเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ที่มารอให้กำลังใจหนุ่มหน้าเกาหลีหัวใจไทยคนนี้ไปเป็นกระบุงเลยทีเดียว

          นอกจากงานพรีเซ็นเตอร์ที่กลับมาฉายเดี่ยวในครั้งนี้แล้ว นิชคุณก็กำลังเตรียมจะมีผลงานภาพยนตร์ให้แฟนๆ ได้ชมกันด้วย ที่สำคัญแอบกระซิบมานะคะว่า เป็นภาพยนตร์ไทย และก็จะถ่ายทำที่ไทยด้วย เอ้า ! ฮอทเททชาวไทย เตรียมเฮดังๆ ได้เลยค่ะ เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอแฟนๆ คงจะได้เห็นบทบาทใหม่ ในการแสดงของนิชคุณค่ะ ส่วนคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบของ 6 หนุ่ม 2PM นิชคุณเค้าก้ยืนยันมาแล้วว่า ปีหน้านี้ได้มันส์กันแน่นอน

ที่มา คมชัดลึก

เเนนนี่ เคลียร์ภาพหลุดหนุ่ม

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'เเนนนี่'เคลียร์ภาพหลุดหนุ่ม!
'เเนนนี่-เกิร์ลลี่เบอร์รี่' เคลียร์ภาพหลุดหนุ่ม แค่เพื่อนเท่านั้น !

          ได้มีโอกาสเจอหน้านักร้องสาวสุดเอ๊กซ์จากวง 'เกิร์ลลี่เบอร์รี่' อย่าง 'เเนนนี่-ภัทรนันท์ ดีรัศมี' ที่งานเปิดตัวช่องฟรีทีวีใหม่ของอาร์เอสทั้งที ล่าสุดเธอก็ออกมาเผยว่าเตรียมที่จะมีผลงานใหม่ กับหน้าที่การเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยว เเถมงานนี้ เรียกว่า เจ้าตัวถึงกับลงเเรงทำรายการเองทุกอย่าง รวมถึงการดึงน้องสุดเลิฟร่วมค่ายอย่าง 'มด-ชุติมณฑน์ ชัยรัตน์' มาเป็นพิธีกรร่วมด้วย

          เเน่นอนว่า เจอหน้าพี่ ๆ นักข่าวทั้งที ก็ต้องอัพเดทเรื่องของกระเเสล่าสุดที่ว่า เธอมีภาพหลุดคู่กับหนุ่มออกมาให้เห็นกันอีกเเล้ว งานนี้ เจ้าตัวก็เลยออกมาเเก้ข่าวว่าเเท้จริงเเล้ว เป็นเเค่เพื่อนเท่านั้น ซึ่งเธอก็ออกมายอมรับว่า มีเพื่อนที่เป็นผู้ชายเยอะมาก ๆ

          เเหมได้ยินได้เห็นเธอออกมาพูดเเบบนี้เเล้ว งานนี้เเเฟนหนุ่มอย่าง 'คริน-สาครินทร์ สุธรรมสมัย' นักร้องนำวง 'อาร์ตฟลอร์' จะมีอาการหึงหวงอะไรบ้างหรือเปล่า

          ส่วนเรื่องของความรัก ตอนนี้ เธอก็บอกว่า สดใสเหมือนเดิม เเถมฝ่ายเเฟนหนุ่ม ยังมีการให้คำปรึกษาเรื่องของรายการอีกต่างหาก เพราะฝ่ายชายเก่งในเรื่องของโปรดักชั่น เห็นเเบบนี้เเล้วเรียกว่า ลักกี้อินเกมส์ เเถมยังลักกี้อินเลิฟใช่ไหมล่ะ เพราะความรักราบรื่น เเถมงานก็เตรียมที่จะออกให้ได้ชมกันอีก น่าอิจฉาซะจริง ๆ เลย

ที่มา คมชัดลึก

อัยการฟ้อง ก๊อต มณฑล ปลอมเช็ค

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


อัยการฟ้อง'ก๊อต มณฑล'ปลอมเช็ค
อัยการฟ้อง'ก๊อต - มณฑล ปริวัฒน์'พิธีกรชื่อดังรายการ 'J - Zone' ช่อง 7 ปลอมเช็คกว่า 2.4 ล้าน นัดตรวจหลักฐานเช้า 19 ธ.ค. นี้

        5 ต.ค.54 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมณฑล ปริวัฒน์ หรือก๊อต อายุ 31 ปี นักแสดงและพิธีกรชื่อดังรายการ “วันหยุดสุดขีด” และ “J - Zone” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และหนุ่มดัชชี่ อันดับ 2 ปี 2000 เป็นจำเลย ในความผิดฐานปลอมและใช้ตั๋วเงิน(เช็ค) ปลอม

        ทั้งนี้ คำฟ้องอัยการ ระบุความผิดสรุปว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัท โอ พลัส ลิฟ จำกัด มีหน้าที่ดูแลด้านการเงิน และเก็บรักษาสมุดเช็คของบริษัทฯ และมีอำนาจลงลายมือชื่อจ่ายเงินตามเช็คของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของ บริษัทฯ ผู้เสียหายที่เปิดไว้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่หากจะมีการสั่งจ่ายเช็คจำเลยจะต้องลงลายมือ ร่วมกับ น.ส.วรินญา จารุทรรศน์พิมล กรรมการบริษัทฯ อีกคนหนึ่งด้วย

        อีกทั้ง เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 53 จำเลยได้ปลอมเช็คของบริษัทฯ ผู้เสียหาย ซึ่งมีชื่อจำเลย และน.ส.วรินญา ที่ลงชื่อไว้ล่วงหน้าไว้จำนวน 2,423,000 บาท โดย น.ส.วรินญา ไม่ได้รับทราบ และไม่ได้ให้ความยินยอม

        จากนั้น จำเลย นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคาร กสิกรไทย จนพนักงานหลงเชื่อยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลยไปเป็นของตนเองโดยมิ ชอบ เหตุเกิดที่ธนาคาร กสิกรไทย  สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.

        ศาลประทับรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.4268/2554 และสอบคำให้การจำเลยแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.



ศาลให้ประกันตัว อัยการฟ้องพิธีกรช่อง 7 สี ปลอมเช็ค

        ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์เป็นเงินสด ที่นายมณฑล ปริวัฒน์ หรือก๊อต พิธีกรรายการ “ J - Zone” สถานีโทรทัศนสีกองทัพบกช่อง 7 จำเลยคดีปลอมตั๋วเงิน (เช็ค) ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดีแล้ว อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยได้ โดยตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท

ที่มา คมชัดลึก

จูน ควง เอี๊ยง เคลียร์มือที่สาม โดม

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'จูน'ควง'เอี๊ยง'เคลียร์มือที่สาม'โดม'
"จูน-ธัญชนก" ควง "เอี๊ยง รูกกี้ บีบี" เคลียร์ มือที่สาม "โดม"

          หลังจากที่ โดม ปกรณ์ ลัม มีข่าวว่าเลิกลากับเเฟนสาวเพ้นท์ ไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว มักจะมีข่าวว่าสาวคนนั้นคนนี้เข้ามาเป็นมือที่สามกันเยอะ  ล่าสุด  "จูน-ธัญชนก ผดุงเกียรติวงษ์"  พิธีกรหน้าใหม่ของย๊าคทีวี ที่ฝ่ายชายดันเเอบส่งดอกไม้ไปให้ถึงในรายการ เเถม "จูน"  ยังถ่ายรูปโพสลงทวิตเตอร์จนทำให้เเฟนเก่าอย่าง "เพ้นท์"  ต้องตอบกลับเเนวประชดว่า "ดอกไม้สวยจัง"  งานนี้เจอหน้า "จูน" ที่งานเปิดตัวช่องก็เลยโดนพี่ๆนักข่าวรุมสัมภาษณ์ชี้เเจ้งเรื่องนี้กัน

          เมื่อถามว่า "โดม" มีท่าทีมาจีบหรือไม่ เธอก็บอกว่า เปล่า เเค่เเลกพิน บีบีคุยกันในวันที่ถ่ายโฆษณาด้วยกันเท่านั้น ซึ่งหลายคนก็มองนะครับว่าเธอจะกลายมาเป็นสาวคนใหม่หรือเปล่า

          ส่วนรูปที่ถ่ายคู่กันที่ออกมา เจ้าตัวก็บอกว่าเป็นภาพจากการทำงานโฆษณารถยี่ห้อหนึ่ง ที่เธอเข้าไปขอโดมถ่ายรูป ซึ่งนั้นก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เเฟนเก่าอย่างเพ้นท์เข้ามาโพสข้อความหึงหวง นั้น เธอก็ชี้เเจ้งเเบบนี้

          พอมีเหตุการณ์เเบบนี้เกิดขึ้นเเล้วส่วนตัวได้มีโอกาสพูดคุยกับโดมเกี่ยวกับ ข่าวนี้บ้างไหม เธอก็บอกว่าไม่มีครับ เเถมงานนี้เธอยังควงหนุ่ม "เอี๊ยง-สิทธา สภานุชาติ" หนึ่งในสมาชิกวง รูกกี้ บีบี เพื่อมาเผยความสัมพันธ์ว่าเเท้จริงเเล้ว จูน มีคนดูใจอยู่

          ทิ้งท้ายไปด้วยที่ทั้งคู่ยังบอกว่า ถ้ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าเรื่องจะใหญ่เเบบนี้ จูนคงไม่โพสรูปขึ้นตั้งเเต่เเรก

ที่มา คมชัดลึก

5.10.54

ตั๊ก ปัดทวงบัลลังก์ถ่ายปฏิทิน



'ตั๊ก'ปัดทวงบัลลังก์ถ่ายปฏิทิน
"ตั๊ก" บงกช คงมาลัย โวได้ค่าตัวคุ้มค่าเหนื่อย หลังตัดสินใจถ่ายปฏิทินหวิว โต้ถ่ายเซ็กซี่เรียกกระแส เมินหากถูกวิจารณ์ ดีใจเสนอหนังผ่าน เตรียมนั่งแท่นกำกับหนังเรื่อง "แองเจิ้ล เดอะ มาเธอร์"

           เคยไปเป็นผู้กำกับหนังสั้นมาพักหนึ่ง ล่าสุด "ตั๊ก" บงกช ถึงกับดีใจ เพราะกำลังจะได้กำกับหนังใหญ่ ที่เขียนเรื่องเองว่า "เแองเจิ้ล เดอะ มาเธอร์" โดยให้ค่ายสหมงคลฟิล์มจัดจำหน่าย อีกทั้งเร็วๆ นี้เธอจะมีปฏิทินหวาบหวิว กับน้ำมันเครื่อง "ZIC" ตั๊กเผยให้ฟังดังนี้   
   
              "ถ่ายไปแล้ว น้ำหนักลดไปประมาณ 7 กิโลกรัม ใช้เวลาลดเกือบปีเหมือนกัน ตั๊กเหนื่อยมาก ต่อไปนี้จะไม่อ้วนแล้ว เพราะว่าเข็ด คอนเซ็ปต์ของตั๊กที่ถ่ายเป็นผู้หญิงเท่ แต่ขึ้นชื่อว่าปฏิทิน มันก็มีบ้างที่โชว์เนื้อหนัง แต่มีความสวย (ตัดสินใจนานไหม) ไม่นานนะ มีแม่ช่วยตัดสินใจด้วย หายจากงานเซ็กซี่ไปปีหนึ่ง ตอนถ่ายลีโอ  คราวนี้ไม่ได้กลับมาทวงบัลลังก์นะ (ค่าตัวคุ้มค่าเหนื่อยไหม) คุ้มนะ ค่าแรงตั๊กคุ้มกับการที่ตั๊กต้องลดน้ำหนัก" ตั๊กกล่าว
   
              ถามต่อ ว่าตั้งรับกับกระแสตอบรับอย่างไรบ้าง เพราะถ่ายอะไรก็โดนวิจารณ์ตลอด นักแสดงสาวกล่าว ว่าที่ตัดสินใจถ่าย เพราะคอนเซ็ปต์สวย ดูดี อีกทั้งไม่เสียเปรียบอะไร
   
              "ใครจะมองว่าเรื่องถ่ายเรียกกระแสหรือเปล่า คือตั๊กทำงานที่ตั๊กชอบ  ตั๊กยังไม่แก่ ตอนนี้ต้องรีบถ่าย  สำหรับงานตอนนี้มีหนัง 2 เรื่อง คือ ปล้นนะยะ 2 เล่นกับพี่เต๋า (สมชาย เข็มกลัด)พี่ออย(ธนา สุทธิกมล) แล้วมี แม่นาค 3 มิติ  ซึ่งเรื่องนี้ถ่ายเสร็จแล้ว น่าจะได้ดูเดือนตุลาคม" ดาราสาวแจกแจง พร้อมกับเสริมต่อ ว่ากำลังจะมีหนังของตัวเอง ที่เสนอผ่านแล้ว ชื่อเรื่อง "แองเจิ้ล เดอะ มาเธอร์"   
   
              "ช่วงที่ตั๊กหายไปดูแลแม่ป่วย เวลานั้นทำให้ตั๊กเขียนหนังได้เรื่องหนึ่งเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่เล่าถึงความรู้สึกที่ตั๊กได้เห็นแม่ป่วย เป็นความรู้สึกของลูก พอเอาไปเสนอผ่าน ทั้งๆ ที่เขียนมาหลายเรื่องแล้ว ช่วง 2 ปี เราใช้เวลาเขียนเรื่องมาหลายเรื่องไม่ผ่าน แต่มาผ่านเรื่องนี้ (เสนอใคร) ตั๊กหาทุนเอง ร่วมกันกับพี่น้อย ที่ทำเกี่ยวกับหนังต่างประเทศ เขามาช่วยตั๊กแล้วหาทุนให้ ส่วนจัดจำหน่ายเป็นทางสหมงคลฟิล์ม (เสนอกับ "เสี่ยเจียง" สมศักดิ์ มั้ย) เสนอให้ เขาบอกว่าดี ใช้ชื่อเรื่อง แองเจิ้ล เดอะ มาเธอร์  ตั๊กกำกับเอง ส่วนนักแสดงใหม่แคสติ้งแล้ว ตั๊กเล่นเองนิดหน่อย ปีหน้าได้ดู" ตั๊กกล่าวสรุป

ที่มา คมชัดลึก

เทพ เบื่อเล่นจำเจ ลา ระเบิดเถิดเทิง



'เทพ'เบื่อเล่นจำเจ ลา'ระเบิดเถิดเทิง'

ยอม รับว่างานบันเทิงมีน้อยลง แต่ก็ยังขอลาออกจากรายการ "ระเบิดเถิดเทิง" โดยตลกรุ่นใหญ่ 'เทพ โพธิ์งาม' ให้เหตุผลว่าเบื่อกับบทที่จำเจ

"ผมลา ออกจาก 'ระเบิดเถิดเทิง' เพราะเกิดเบื่อขึ้นมาเฉยๆ ทั้งที่ตัวเองไม่ค่อยจะมีงาน ผมลาออกเพราะเล่นแบบนี้มานานมากเลยเบื่อ เคยให้เขาเปลี่ยนหรือปรับ แต่ทีมงานก็เฉยๆ ไม่เปลี่ยนให้ เลยขอออกดีกว่า แต่ตอนนี้ก็มีงานละคร 2 เรื่องคือ 'พ่อตาปืนโต' ของคุณฉลอง ภักดีวิจิตร และ 'เพลงรักบ้านนา' ของดีด้าครับ"

ที่มา ข่าวสด

พลอย เมินโชว์แหวนหวั่นโดนหมั่นไส้



'พลอย' เมินโชว์แหวนหวั่นโดนหมั่นไส้
'โหน่ง-นัท' ปรึกษาปากเบี้ยว 'พลอย' เมินโชว์แหวนหวั่นโดนหมั่นไส้

          "พลอย" เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ รับคนในวงการ โหน่ง ชะชะช่า "นัท" ณัฐ ศักดาทร ปรึกษาอาการปากเบี้ยว แจงอาการดีขึ้น รักษาด้วยการฝังเข็ม เปรยไม่กล้าใส่แหวนที่ "ต้าร์" นาวิน เยาวพลกุล ซื้อให้ในวันเกิด โชว์สื่อหวั่นโดนคนหมั่นไส้
     
              หลังจากมีอาการปากเบี้ยว ป่วยเป็นโรค เบลล์พัลซี (โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก) ล่าสุดนางเอกสาว "พลอย" เฌอมาลย์  อาการของเธอดีขึ้น แต่แพทย์ยังย้ำ ให้ดูแลตัวเอง โดยไม่ให้ทำงานหนักและเครียด ทำให้สาวพลอยต้องปฏิเสธรับละครเรื่อง "หงส์สะบัดลาย" เพื่อรับงานให้น้อยลง นางเอกชื่อดังเผยในงานเปิดนิทรรศการ "เฉลิมพระเกียรตินวมินทร์ อัครศิลปินแห่งสยาม" ดังนี้ 
   
              "อาการดีขึ้น อย่างที่บอกว่ามันเป็น และหายได้เองโดยอัตโนมัติ  (ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วหรือยัง) พลอยไม่ทราบ จะเป็นอีกหรือเปล่าบอกไม่ได้  พลอยก็ฝังเข็มอยู่เรื่อยๆ ว่างก็ไป แต่อย่างที่บอกโรคนี้มันต้องหาข้อมูล ตอนนี้ดีขึ้นกว่าตอนแรกๆ มาก อาการของพลอยไม่ได้หนักมาก มันเกิดจากเราเครียด และพักผ่อนน้อย แต่ว่าที่มันหนักเป็นเพราะว่าคนอื่นคิดไปในทางที่ไม่ดีมากกว่า มันเลยเดือดร้อน คนอื่นเลยเดือดร้อนแทนว่าเป็นอย่างอื่นหรือเปล่า ไปฉีดโบท็อกมาหรือเปล่า พลอยคิดว่ามันเลยดูเป็นเรื่องใหญ่" พลอยกล่าว
     
              ถามต่อ ว่ามีคนเข้ามาขอปรึกษาเยอะไหม นักแสดงสาวกล่าว ว่ามีทั้งตลกชื่อดัง โหน่ง ชะชะช่า และ "นัท" ณัฐ ศักดาทร (นัท เอเอฟ) สอบถามเช่นกันว่าหมอชื่ออะไร และหาที่ไหน
   
              "ทุกคนจะถามว่าหมอชื่ออะไรที่พลอยไปหา เพราะว่าคุณหมอคนนี้เก่ง เขาเป็นคนที่รักษาพี่ติ๋ว อรสา (อรสา ทองพรหม) แต่ของพลอยนี่ไม่ใช่โรคเส้นประสาทอักเสบ เขาเรียกโรคโรคเบลล์พัลซี ซึ่งมันเป็นการอักเสบของปลายประสาทชนิดหนึ่ง มันจะเบากว่าโรคเส้นประสาทอักเสบ (อย่างนี้ต้องลดการทำงานน้อยลงไหม) ตอนนี้ยังถ่าย "ขุนศึก" อยู่ ยังไม่เสร็จ เพราะว่าติดปัญหาน้ำท่วมอยู่ แต่ว่าก็เบาลงแล้วตัดละครไปเรื่องหนึ่ง คือ หงส์สะบัดลาย ถามว่าเสียดายมั้ย พลอยว่าพักดีกว่า เหนื่อย คุณหมอบอกว่าพลอยต้องพัก ไม่ต้องแสดงเยอะไม่ต้องรับงานเยอะ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องเกรงใจคนอื่น (แล้วพี่ต้าร์ดูแลอย่างไร เจอกันบ้างไหม) ก็เจอดูแลปกติ  ไม่ได้มีอะไรหวือ" ดาราสาวแจกแจง พร้อมกับเสริมต่อ ว่าแหวนที่แฟนหนุ่ม "ต้าร์" นาวิน ให้ในวันเกิด ไม่อยากใส่มางาน เพราะหวั่นถูกให้โชว์แหวน
   
              "พลอยไม่ใส่เลย รู้ว่าทุกคนจะถ่ายรูป (ไม่กลัวเขาน้อยใจเหรอ) ไม่น้อยใจ บอกพี่ต้าร์แล้ว เดี๋ยวต้องโดนให้ยกมือขึ้นถ่ายรูป แล้วเดี๋ยวทุกคนก็บอกว่าอวดหรือเปล่า ไม่อยากโดนหมั่นไส้ พลอยก็ใส่บ้าง แต่ถ้าไปถ่ายละครไม่ใส่ เดี๋ยวหาย" พลอยกล่าวอย่างอารมณ์ดี

ที่มา คมชัดลึก

4.10.54

วี แอบขู่ นุ่น ตบจริงมีจูบจริง

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'วี'แอบขู่'นุ่น'ตบจริงมีจูบจริง
'วี'แอบขู่'นุ่น'ตบจริงมีจูบจริง:ตะลุยตะลอนกอง

           ลงจอเรียกเรตติ้งกันแล้ว สำหรับละครแนวโรแมนติก-คอมมาดี้ เรื่อง “เส้นตาย...สลายโสด“ ของค่าย พอดีคำ ที่กำลังทำให้แฟนๆ เกาะติดจอกันอยู่เลยทีเดียว โดยฉากที่เก็บมาฝากนี้เป็นงานข่าวกิจกรรม “คู่แท้อยู่แค่เอื้อม” ของร้านเวดดิ้งรักนิรันดร์ โดยความรับผิดชอบของฟ้า ("นุ่น" วรนุช ภิรมย์ภักดี) งานเกิดมีปัญหา เพราะนักแสดงคู่รักที่จะมาเป็นแขกขอยกเลิก ฟ้าต้องรับผิดชอบและแก้ปัญหานี้ด้วยการหาคู่รักตัวอย่างที่ไม่น่ารักกันได้ แต่รักกันจนได้มาคุยบนเวที และใส่ชุดแต่งงานให้นักข่าวทำข่าว บอสบอกให้ฟ้ากับดิน (“วี" วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) ขึ้นเวทีในฐานะคู่รัก ฟ้า(นุ่น)ต้องคุกเข่าขอโทษงอนง้อดิน (วีรภาพ) เพื่อให้ยอมขึ้นเวทีแกล้งเป็นคู่รักกับเธอต่อ หลังจากทะเลาะและดินขอเลิกแผนการแกล้งเป็นแฟนให้ฟ้าเพื่อหลอกแม่
   
              กองถ่ายปักหลักถ่ายทำฉากนี้กันที่ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ย่านพระราม 9 เป็นฉากที่นักแสดงเข้าฉากครบทุกคน มาถึงซีนทะเลาะตบจูบของฟ้าและดิน ฟ้าตบดินจับจูบ และเพราะมีนิสัยขี้แกล้งทั้งนุ่นและวี ทำให้คู่นี้จะออกแนวรู้ทางกัน เหมือนวีจะรู้ว่านุ่นอาจแกล้งตบโดนจริงเลยมีขู่เพื่อป้องกันตัวว่า “งานนี้ตบจริงมีจูบจริงนะเฟ้ย” ตอนถ่ายทำจริงใช้เทคนิคมุมกล้องทั้งจูบและตบ นุ่นตบมีพลาดปลายนิ้วไปโดนหน้าวีบ้าง แต่วีถือว่าไม่ได้ตั้งใจเลยไม่มีการเอาคืน และมาจบซีนที่วีอุ้มนุ่นขึ้นเวทีไปนั่งพูดคุยกับพิธีกรคือ เอมี่ กับ เติ้ล ซีนนี้ผ่านไปได้แบบชิลๆ และต่อด้วยซีนที่ฟ้าและดินต้องแต่งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาให้สื่อมวลชนถ่ายรูป ฟ้าสะดุดชายกระโปรงเกือบล้มแต่ดินจับเอวและประคองไว้ได้ทัน กลายเป็นโพสที่สวยงามสำหรับการถ่ายภาพของสื่อมวลชน ซีนนี้ง่ายๆ เบาๆ เลยผ่านไปด้วยดี
   
              ติดตามชมความสนุกน่ารักครบรสของฉากนี้ได้ ในละคร “เส้นตาย...สลายโสด” ออกอากาศอังคารที่ 4 ตุลาคมนี้ หลังข่าว ช่อง 7

ที่มา คมชัดลึก

พอร์ช เชื่อดวงตกเดินสายทำบุญ

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'พอร์ช'เชื่อดวงตกเดินสายทำบุญ
"พอร์ช" ศรัณย์ ศิริลักษณ์ เผยช่วงนี้ดวงตกทั้งป่วย และเกิดอุบัติเหตุไม้พองฟาดหน้า รับเดินสายทำบุญเสริมดวง รับเป็นคนเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ

          เพิ่งเคลียร์ข่าวป่วย จนวูบกลางกองไปไม่เท่าไหร่ พระเอกคลื่นลูกใหม่วิกหมอชิต "พอร์ช" ศรัณย์ ก็ซวยซ้ำซวยซ้อน เพราะระหว่างไปเรียนศิลปะป้องกันตัว เพื่อมาใช้ในละคร "ลูกผู้ชายไม้ตะพด" ดันเกิดผิดคิวถูกไม้พองยาว ฟาดเข้าที่ระหว่างคิว จนเกิดเป็นแผลลึก ซึ่งงานนี้หนุ่ม "พอร์ช" เผยว่ารู้สึกว่าเป็นช่วงดวงตก
   
              "เพิ่งโดนไม้พองฟาดหน้ามาสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันนี่เอง คือผมไปเรียนศิลปะป้องกันตัว แล้วเกิดผิดคิวขึ้นมา เลยโดนฟาด ตอนโดนยังไม่รู้ แต่เลือดไหลแล้ว เราก็คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก ก็เอาน้ำแข็งมาประคบเลือด มันก็หยุดไหล แต่พอยักคิ้วแผลก็ปริอีก แต่ตอนนั้นมันดึกมากแล้ว เลยไม่อยากไปโรงพยาบาล ก็เลยเอาน้ำแข็งประคบแล้วก็หลับไป ตื่นขึ้นมา เราก็เห็นว่าเลือดมันหยุดไหลแล้ว จริงๆ พี่คนดูแลบอกให้ไปเย็บ เพราะถ้าเย็บก็ประมาณ 2-3 เข็ม แต่ผมกลัวเป็นแผลเป็น เลยไม่เย็บ ตอนนี้ก็ท่ายาไม่ให้เป็นแผลเป็นและก็แปะพลาสเตอร์ไว้ ไม่ให้โดนน้ำ โดนเครื่องสำอาง ผมคิดเอาเองว่าอาทิตย์เดียวก็คงหาย (หัวเราะ)" พระเอกหนุ่มกล่าว พร้อมเสริมต่อว่าคิดว่าช่วงนี้ดวงเป็นช่วงดวงตก
   
              "เมื่อคราวที่แล้วป่วย คราวนี้เกิดอุบัติเหตุ ถ้าถามว่าเกี่ยวกับดวงตกไหม ผมเชื่อว่าเกี่ยว แม่ผมเคยบอกว่า ผมมีบุญเก่าที่สร้างมา แต่พอใช้ไปมันมีวันหมด ต้องค่อยทำบุญเพื่อเสริมดวง ซึ่งจริงๆ ผมเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว บางทีขับรถไปกอง เห็นพระกำลังบิณฑบาต ผมก็ขับไปจอดข้างหน้า แล้วไปซื้อกับข้าวในเซเว่นมาตักบาตร ผมว่ามันเผื่อความสบายใจของเราเองด้วย แต่ผมเป็นเชื่อว่าการทำบุญกับพ่อแม่เป็นอะไรที่ดีกว่า บุญอะไรทั้งหมด" พอร์ชเล่าทิ้งท้าย

ที่มา คมชัดลึก

แสตมป์ กอล์ฟ รับผิดทำSADกร่อย

(คลิ้กที่นี่ เพื่อดูรูปนี้ในขนาดจริง)


'แสตมป์-กอล์ฟ'รับผิดทำSADกร่อย
'แสตมป์-อภิ วัชร์ เอื้อถาวรสุข' และ 'กอล์ฟ-ฟักกลิ้งฮีโร่' ทำให้แฟน ๆ งงไปตาม ๆ กัน เมื่อต่างฝ่ายต่างทวิตข้อความรับผิด หลังงาน SAD FESTIVAL กร่อย

          ทำเอาแฟน ๆ ทวิตเตอร์ของหนุ่ม "แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข" และ "กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่" งงไปตาม ๆ กัน เมื่อจู่ ๆ ทั้งสองหนุ่มได้โพสต์ข้อความขอโทษผู้จัดงาน SAD FESTIVAL เมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จนแฟน ๆ ที่ไม่ได้ไปร่วมเทศกาลงาน SAD FESTIVAL สงสัยว่า คืนดังกล่าว เกิดเรื่องอะไรขึ้นกลางงาน SAD กันแน่

          ทั้งนี้ เรื่องของเรื่องเกิดจากขณะที่หนุ่มแสตมป์ กำลังเล่นคอนเสิร์ตอยู่บนเวที ในช่วงเวลา 5 ทุ่มกว่า ๆ และกำลังจะเล่นเพลงที่ 3 ขณะนั้น หนุ่มกอล์ฟ-ฟักกลิ้งฮีโร่ ได้เดินขึ้นมาแจมบนเวทีด้วยอาการมึนเมา โดยที่หนุ่มแสตมป์ ไม่รู้เรื่อง จากนั้น หนุ่มกอล์ฟก็เริ่มพูดจากับคนดู และจะขอร้อง 4 เพลงตามคอนเซปต์ SAD มี 4 ประเภท แต่ไม่ได้นัดแนะกับวงของแสตมป์เอาไว้ และพูดเข้าเพลงแต่ละเพลงใช้เวลาค่อนข้างมาก

          กระทั่งถึง หนุ่มกอล์ฟ ร้องไปได้ 2 เพลง กำลังจะเข้าเพลงที่ 3 หนุ่มแสตมป์ ก็เข้าไปบอกให้ หนุ่มกอล์ฟ หยุดร้องก่อน เพราะทางงานมีเวลาใช้สถานที่ถึงแค่เที่ยงคืน และยังเหลืออีกวงหนึ่งยังไม่ได้ขึ้นแสดง จึงเกรงว่า เวลาจะไม่พอ แต่หนุ่มกอล์ฟก็ไม่ยอมหยุด ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด

          สุดท้าย หนุ่มแสตมป์ จึงพูดทำนองว่า หากกอล์ฟไม่เลิกร้อง เขาจะไม่เล่นแล้ว และทิ้งไมโครโฟนไป ก่อนที่ทีมงานรักษาความปลอดภัยจะพาหนุ่มกอล์ฟ ลงจากเวทีไปทันที ทำเอาคนดูตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

          ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว หนุ่มกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ได้เขียนข้อความขอโทษผ่านทางทวิตเตอร์ @Fucking_Hero ว่า "ขอโทษแสตมป์ วง ผู้จัดงาน Sad และคนดูทุกคนจากหัวใจครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำผิดเพราะผมเมา ยอมรับทุกคำตำหนิโดยไม่มีข้อแก้ตัวอะไรเลย ผมเองก็คงนอนไม่หลับ สำหรับผมแสตมป์ยังเป็นเพื่อนที่ผมรักเสมอ ถึงวันนี้อะไร ที่ แตม คิดกับผมมันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สิ่งที่ผมทำวันนี้มันเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีสติ การสื่อสารที่ผิดพลาด แต่ในใจผมไม่ได้ตั้งใจอยากทำร้ายโชว์ หรือความรู้สึกแตมเลย ทั้งโลกนี้ไม่มีใครอภัยให้เรื่องวันนี้ ผมยังรอให้แตมอภัยให้ผมเสมอ ไม่มีคืนไหนจะยาวนานได้เท่ากับคืนที่เราเป็นทุกข์"

          ขณะที่ หนุ่มแสตมป์ เอง ก็ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านทวิตเตอร์ @StampApiwat เช่นกันว่า "กราบขอโทษทีมงานผู้จัด และเหนือสิ่งอื่นใดคือท่านผู้ชม ในงาน sad festival นะครับ ไม่ว่าความผิดพลาดบนเวทีครั้งนี้จะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ผมถือว่ามันเป็นความรับผิดชอบของผมคนเดียวที่เป็นเจ้าของโชว์ แล้วควบคุมสถานการณ์ไว้ไม่ได้ และได้เลือกใช้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่สวยงามเสียเลย ถ้ามีทางใดที่จะทดแทนความผิดพลาดในครั้งนี้ได้บ้างผมยินดีทำทุกประการครับ ขอโทษจากใจจริงอีกครั้งครับ เราตั้งใจมากกับทุกโชว์ของเรา เราเสียใจมากที่วันนี้มันพังทลายลงไป ทั้ง ๆ ที่เราพยายามเต็มที่แล้วแท้ ๆ เราให้อภัยตัวเองไม่ได้สักที"

          ทั้งนี้ หลังจากสองหนุ่มโพสต์ข้อความดังกล่าว ก็ได้มีคนตั้งกระทู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ขณะที่บรรดาแฟนคลับของทั้งสองหนุ่มก็ได้เขียนข้อความส่งกำลังใจให้ทั้งคู่ ด้วย เพราะทั้ง สแตมป์และกอล์ฟ ก็เป็นเพื่อนสนิทที่ร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน ล่าสุดก็มีซิงเกิ้ล การ์มา Karmar ที่ทำงานด้วยกัน ขึ้นเวทีด้วยกันมาหลายครั้ง แต่เพิ่งจะเกิดเหตุบาดหมางจนไล่ลงจากเวทีเป็นครั้งแรกเพราะพิษสุรา

ที่มา คมชัดลึก

3.10.54

เมย์ ทำเสน่ห์เล่นของจน ชาย คลั่ง



'เมย์'ทำเสน่ห์เล่นของจน'ชาย'คลั่ง
'เมย์'ทำเสน่ห์เล่นของจน'ชาย'คลั่ง:ตะลุยตะลอนกอง

           เริ่มความร้ายขึ้นทุกทีแล้วสำหรับสาว เมย์ เฟื่องอารมย์ ที่รับบท “บัวเงิน” เพราะรู้แล้วว่า เจ้าศิริวัฒนา ที่รับบทโดย “ชาย" ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ ไปหลงรักเจ้านางมณีริน ("แอฟ" ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) เข้าแล้ว เลยต้องหันมาพึ่งพาไสยศาสตร์ด้วยการการทำเสน่ห์ยาแฝด เพื่อให้ชายกลับมาหลงตนเองเหมือนเดิม ฉากนี้สาว "เมย์" ยอมทุ่มเต็มที่กับท่าท่องคาถาทำเสน่ห์ ที่เรียกว่า หงส์ร่อน มังกรรำ
   
              ฉากนี้ชายต้องแสดงทั้งสีหน้าท่าทางของอาการคลั่ง เมื่อเริ่มโดนของที่บัวเงินทำพิธีใส่ เพราะอีเม้ย ("ชุ" ชุดาภา จันทเขตต์) เอาหุ่นตุ๊กตาปั้นแอบไปไว้ที่ใต้เตียง บัวเงิน (เมย์) เริ่มสวดทำพิธี เจ้าศิริวัฒนา (ชาย) ก็ถึงกับคลั่งแม้แต่เจ้าแม่ ("นก" ชลิดา เถาว์ชาลี) ที่เข้ามาพร้อมเจ้าศิริวงศ์ ("อั้ม" อธิชาติ ชุมนานนท์) และมณีริน เข้ามาห้ามก็ตาม เมื่อการทำเสน่ห์เริ่มออกฤทธิ์เมย์ก็ต้องขึ้นเตียงไปนอนคลอเคลียอยู่กับ หนุ่มชาย
   
              ซึ่งฉากหงส์ร่อน มังกรรำ ก็ทำให้สาวเมย์ออกอาการเครียดเลยทีเดียว เพราะ "อ๊อฟ" พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ผู้กำกับให้ดีไซน์ท่าทางการทำเสน่ห์เอง โจทย์ที่ได้คือต้องจริงจังแต่น่ารัก คราวนี้ทำเมย์คิดหนัก แต่ก็คิดท่าทางออกมาได้เรียกว่าต้องนับถือสปิริตเลยทีเดียว แถมฉากนี้นักแสดงที่ไม่ได้เข้าฉากแล้วยังไม่ยอมกลับเพื่อขอดูเมย์เล่น แต่ทีเด็ดกว่าคือผู้กำกับ "อ๊อฟ" กลับดูลีลาเมย์เพลินจนลืมคัต  เรียกว่าขำจนลืมคัตทีเดียว
   
              ติดตามฉากสุดระทึกใจนี้ได้ในละคร “รอยไหม” คืนวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ เวลา 20.20 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

ที่มา คมชัดลึก

โทโมะ ควง แก้ว โชว์วงสวิง



'โทโมะ'ควง'แก้ว'โชว์วงสวิง
วันอาทิตย์พักยก : 'โทโมะ' ควง 'แก้ว' โชว์วงสวิง เล่นจริงจัดเต็มเหนี่ยว : เรื่อง เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล , ภาพ วริศรา วุฒิกุล

          ลุ้นให้จับคู่กันเหลือเกิน จนทำให้ต้นสังกัดอย่างอาร์เอส ต้องจับ "แก้ว" จริญญา ศิริมงคลสกุล (วงเฟย์ ฟาง แก้ว) และ "โทโมะ" วิศวะ ไทยานนท์ (วงเคโอติก) มาร้องเพลงร่วมกันใน LOVE เว่อร์ Project กับเพลง "เพื่อนที่เธอไม่รู้ใจ" แถมทั้งคู่ยังมีผลงานภาพยนตร์ร่วมกันเรื่อง "บางกอกกังฟู"  วันนี้คมชัดลึก เลยขอพาพระ-นางคู่มาวาดลวดลายวงสวิง ตีกอล์ฟชิลๆ กันที่ Baiyoke Golf Range สนามซ้อมกอล์ฟลอยฟ้า สูงที่สุดในประเทศไทย บนชั้น 18 ของโรงแรม ใบหยกสกาย (ใบหยก 2)

          แต่ก่อนที่จะไปออกกำลังกายชิลๆ ต้องเติมพลังกันก่อน ว่าแล้วกรุ๊ปของเราก็เคลื่อนตัวขึ้นที่ชั้น 78 บริเวณห้องอาหารบางกอกสกาย เพื่อไปกินอาหารบุฟเฟต์ซีฟู้ดนานาชาติ งานนี้พอบอกว่ากินข้าวกันก่อน ทั้งสาวแก้วและหนุ่มโทโมะก็อารมณ์ดี ตาใสขึ้นมาทันที "มื้อแรกของวันเลยนะเนี่ย" แก้วกล่าวพลางชักชวนโทโมะไปเลือกอาหารที่อยากกิน ซึ่งที่ห้องอาหาร มีอาหารให้เลือกสรรค์มากมาย ไทย จีน ฝรั่ง เลือกสรรค์กันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย

          หลังจากเอ็นจอยอีทติ้งกันเต็มที่ ก็ได้เวลาเคลื่อนพลไปสนามซ้อมกอล์ฟลอยฟ้ากันแล้ว  ว่าแล้วก็ยกพลลงไปที่ชั้น 18  แถมบริเวณภายในสนาม ยังตกแต่งเป็นแบบคันทรี มีที่นั่งพักผ่อนและบ่อน้ำจำลอง ระหว่างที่เดินเข้ามาบริเวณสนามไดร์ฟกอล์ฟ โทโมะก็เอ่ยขึ้นว่า "ผมไม่เคยเล่นกอล์ฟเลยครับ แต่แก้วเขาเคยเล่น งานนี้ท่าทางต้องให้แก้วสอนซะแล้ว" โทโมะกล่าวพลางบุ้ยใบ้ไปที่แก้วที่เดินตามกันมา

          สนามที่นี่มีขนาดกว้างแค่ 30 หลา ยาว 35 หลาเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ที่นี่เหมาะสำหรับฝึกซ้อมลูกระยะสั้น แต่ถ้าใครอยากฝึกซ้อมวงสวิง สามารถใช้หัวไม้ได้เหมือนกัน เพราะปิดล้อมพื้นด้วยตาข่าย 3 ชั้น มีกรีนเป็นเป้าหมายเพื่อฝึกซ้อมความแม่นยำ แถมพื้นยังปูด้วยหญ้าเทียม "อูว...ว ถึงที่นี่จะเล็กแต่สวยมากๆ เลยมองเห็นวิวด้านนอกด้วย  ดูเหมือนสนามจริงมากๆ" แก้วว่าพลางมองไปรอบๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกช่างภาพ ดึงไปถ่ายภาพเซตแรก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ ก็แนะนำอุปกรณ์ เล่นกอล์ฟซึ่งมีทั้งไม้ตีกอล์ฟ ซึ่งมีขนาดหัวไม้ไซส์ต่างๆ แล้วแต่คนใช้จะถนัด

          นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยิงลูกกอล์ฟ ปกติจะเห็นแต่ลูกกอล์ฟสีขาวๆ แต่ที่นี่มีลูกกอล์ฟหลากสี จนสาวแก้วต้องนำลูกกอล์ฟสีสวยๆ มาเรียงเป็นรูปหน้ายิ้ม พลางถ่ายภาพเก็บไว้ "อย่างกับสีลูกกวาด ดูสิมีทั้งสีชมพู เหลือง เขียว ฯลฯ สีสวยมากๆ เลย" แก้วว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

          หลังจากปล่อยให้ช่างภาพถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ได้เวลาปล่อยให้พระ-นางตีกอล์ฟกันแล้ว "ปล่อยให้แก้วเขาสำแดงฝีมือก่อน" โทโมะว่า ฟากสาวแก้วก็แซวสวนขึ้นทันที "ไม่ได้อยากเป็นสุภาพบุรุษ แต่ตีไม่เป็นใช่ไหมล่ะ" หัวเราะเยาะเสร็จ สาวแก้วก็โชว์ลีลาตีกอล์ฟเกทับหนุ่มโทโมะซะเลย หลังจากที่ดูแก้ววาดลวดลายวงสวิงพักใหญ่ โทโมะก็ขอลองบ้าง ก่อนจะอุบอิบว่ายากเหมือนกันแฮะ ตีลูกกันไปพอหอมปากหอมคอ หนุ่มโทโมะก็เริ่มเบื่อ คว้าลูกกอล์ฟสีหวานๆ มาโยนเล่นพลาง ดูแก้วตีลูกพลางอย่างสบายอารมณ์  ในขณะที่ช่างภาพก็เก็บภาพกันไป

          ตีไปได้สักพักท้องฟ้าก็เริ่มทมึนมาแต่ไกล พร้อมๆ กับละอองฝนที่เริ่มโปรย พอฝนเริ่มลงเม็ด กรุ๊ปของเราก็เลยต้องเปลี่ยนไปพลัสลูกกอล์ฟในที่ร่ม ก่อนจะปิดท้ายกิจกรรมด้วยการนั่งจิบน้ำส้มกันชิลๆ บริเวณมุมพักผ่อนบริเวณสนามไดร์ฟกอล์ฟนั่นเอง พอนั่งปุ๊บ! สาวแก้วก็คว้าแก้วน้ำส้มหมับขึ้นดูดอย่างกระหาย ก่อนจะพูดถึงผลงานที่ต้องร้องร่วมกับโทโมะว่า

          "ตอนนี้แก้วกับโทโมะมีผลงานเพลง กามิกาเซ่ เลิฟเว่อร์ โปรเจกท์ ซึ่งโทโมะกับแก้วต้องร้องคู่กัน ในเพลง "เพื่อนที่เธอไม่รู้ใจ" ซึ่งตอนนี้เราก็ปล่อยตัวเพลงออกมาแล้ว และก็มีเอ็มวีแล้วด้วย ซึ่งเอ็มวีก็น่ารักมากๆ คาดว่าทุกคนน่าจะได้ดูแล้ว" แก้วกล่าว

          ในขณะที่หนุ่มโทโมะ รีบกล่าวสำทับถึงภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทั้งคู่ได้เล่นด้วยกันอย่าง "บางกอกกังฟู" ว่าในเรื่องทั้งคู่แทบจะไม่เจอกันเลย "แต่อย่าลืมไปชมกันนะครับ เพราะนอกจากจะมีเราทั้งคู่ร่วมเล่นด้วยกันแล้ว ยังมีพี่แบงค์ (อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม) พี่เป้ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) แล้วก็ มาริโอ เมาเร่อ ร่วมเล่นด้วยรับรองว่านอกจากความบันเทิงแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสอนเรื่องต่างๆ อย่างความสามัคคี อยากให้ไปดูกัน ซึ่งเรื่องนี้จะเข้าโรงภาพยนตร์ 1 กันยายนนี้" โทโมะ กล่าวปิดท้าย ก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว เพราะทั้งคู่มีงานต่อ แหม ... คิวทองจริงๆ เลย

ที่มา คมชัดลึก